ผันผวนจากปัจจัยภายนอก เลือกหุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน

หลายปัจจัยเสี่ยงผลักดันค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่า กดดันภาพการลงทุนบรรยากาศการลงทุน ช่วงปลายสัปดาห์โดยรวมยังไร้ทิศทาง หุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับลดลง โดยตลาดรอติดตามปัจจัยเสี่ยง และความไม่แน่นอนระยะสั้นจาก

1) ข่าวการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลสหรัฐฯ (26.5% จากปัจจุบัน 21%)

2) เข้าใกล้เส้นตายของการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ

3) แรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบกำกับดูแลของธุรกิจในประเทศจีน

4) ความกังวลปัญหาหนี้จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในจีน (Evergrande) อาจผิดนัดชำระ และเกิดผลกระทบลุกลาม

5) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ในสัปดาห์นี้ที่คาดจะมีการส่งสัญญาณเริ่มลด QE ที่ชัดเจนมากขึ้น

การแก้ปัญหาของ Evergrande และการส่งสัญญาณ QE Tapering เป็นปัจจัยกำหนดโทนลงทุนสัปดาห์นี้ ปัญหาหนี้สินของ Evergrande ที่ใหญ่ขนาด 10 ล้านล้านบาท ทำให้การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัยการเข้ามาช่วยของรัฐบาลจีน ซึ่งรัฐบาลอาจเข้าเลือกไม่อุ้มหนี้ทั้งหมด แต่ช่วยเหลือแค่รายย่อยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายความมั่งคั่งผ่านแนวคิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common prosperity) ซึ่งแนวทางในการช่วยเหลือดังกล่าว จะเป็นปัจจัยกำหนดความผันผวนและผลกระทบต่อตลาดทุนในระยะสั้น (ซึ่งเราไม่คาดว่าจะลุกลามเป็นวิกฤติ) ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) คาดตลาดจะมองบวก หากการลดการซื้อพันธบัตรเกิดในอัตราที่ต่ำเช่น 1-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน (จากปัจจุบันที่ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน) เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยรวมถึงการใช้นโยบายการเงินตึงตัวในอนาคตจะยังอยู่อีกไกล

ติดตามผลการประชุม Focus group วันนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ SET50 / SET100 แม้เราจะไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการที่มีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดของการประชุมกลุ่มย่อยดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มที่มีปริมาณหุ้นหมุนเวียน (free float) ต่ำ ที่อาจกระทบจากการปรับเกณฑ์ อย่างไรก็ตามเรา ขอชื่นชมตลท. ที่เตรียมรับฟังความเห็นเพิ่มเติมโดยเร็ว เพื่อผลักดันประเด็นนี้ไปสู่สาธารณะให้เร็วที่สุด ซึ่งจะลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เราไม่แน่ใจว่าจะสามารถพูดถึงหรือเผยแพร่รายละเอียดจากการประชุมได้เพียงใด จึงขอให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อประเด็นดังกล่าวจนกว่าจะมีความชัดเจนในรายละเอียดของกฎเกณฑ์

ธีมการลงทุนระยะสั้น ยังเป็นธีมเปิดเมืองสลับกับหุ้นอื่นๆ แบบเก็งกำไรรายตัว เรามองทยอยสะสม ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART / ทยอยสะสมสาธารณูปโภค GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW / เก็งกำไรทางเทคนิค MDX, TH, VNG, SKN, WIIK, FSMART, MFEC, KTC, ACE, AQUA, US, SUPER, ESTAR, NUSA, EVER, ORI, AMANAH, ACAP / เครื่องมือแพทย์ SMD, WINMED, TM, BIZ

ภาพรวมกลยุทธ์: เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด 1,620-1,640 ขณะที่ประเมินบรรยากาศเก็งกำไรหุ้นรายตัวจะยังเป็นบวกวัสดุก่อสร้างส่งออก (อาหารและอิเล็กทรอนิกส์) ควรกำหนดจุดตัดขาดทุน และแบ่งทำกำไรทุกครั้ง / / หุ้นแนะนำ: SKN *, GFPT *, TFG *, AJ*

แนวรับ: 1,615-1,620 / แนวต้าน: 1,630-1,643 จุดสัดส่วน: เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

รัฐเตรียมโอนเงินรอบสองคนละครึ่งเฟส 3 – เริ่มวันที่ 1 ต.ค. -31 ธ . ค 64 จำนวน 1,500 บาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-การจับจ่ายของประชาชนในไตรมาสที่ 4

แบงก์ชาติจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าระบบ 9 หมื่นล้านหยวน – ผ่านการทำ Repo อายุ 7 และ 14 วัน ซึ่งถือเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องภายในหนึ่งวันของ PBOC ที่มีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่ก.พ. เพื่อป้องกันสภาพคล่องทิ้งตัวจากปัญหา Evergrande

TU – ซุ่มเจรจาซื้อหุ้น RBF จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือ 10% จากกลุ่มรัตนภูมิภิญโญเพื่อต่อยอดธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลกแบบครบวงจร แหล่งข่าวระบุเคาะราคาหุ้นละ 16 บาท รวมมูลค่า 3,200 ล้านบาท คาด TU ได้ส่วนต่าง 800 ล้านบาท

UREKA – นายอุลิต จาตุรแสงไพโรจน์ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนื่องจากติดภารรกิจส่วนตัว ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้นถึง 145% ภายในเดือนก.ย. นี้จึงควรระวังความผันผวน

XPG เตรียมเปิดจอง SiriHub Token – วันที่ 21 ก.ย. -4 ต.ค. 64 จองซื้อด้วยมูลค่าขันต่ำเพียง 10 บาท จองซื้อรายละไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งจะให้ส่วนแบ่งราย ได้แก่ นักลงทุนเป็นรายไตรมาสตลอดอายุโครงการ 4 ปีจากการนำกระแสรายรับที่ได้จากค่าเช่าและรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการของกลุ่มอาคารสำนักงานสิริแคมปัสมาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) 2 ประเภทคือ A และ B

ประเด็นติดตาม: -22 ก.ย. : BOI meeting) 23 ก.ย. : FOMC meeting, BOE meeting, US Initial Jobless Claims, EU Manufacturing PMI เดือน ก.ย. / 24 ก.ย. : US 10-year TIP Auction

ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร SKN* (9.00): เก็งกำไรราคาหุ้นฟื้นตามกลุ่มวัสดุก่อสร้าง/ไม้อัดยาง ตัดขาดทุน 7.10 บาท
  • เก็งกำไร GFPT (14): ผลการดำเนินงานได้ผลดีจากเงินบาทอ่อนและราคาธัญพืชที่เริ่มลดลง ตัดขาดทุน 12.70 บาท
  • เก็งกำไร TFG* (5): ผลการดำเนินงานได้ผลดีจากเงินบาทอ่อนและราคาธัญพืชที่เริ่มลดลง ตัดขาดทุน 4.54 บาท
  • เก็งกำไร AJ* (23): เก็งกำไรธีมเปิดเมือง บวกต่อความต้องการฟิล์ม ตัดขาดทุน 19.20 บาท

    (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างจากพื้นฐาน หรือไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับข้ึนภาษีนิติบุคคล, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วข้ึน (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17ก.ย.) และปิดลดลงต่อเนื่องเป็นสปัดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง แต่รายงานข่าวที่ว่าอังกฤษกำลังพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางน้ันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินและโรงแรม (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว (17ก.ย.) ปิดบวกในวันน้ี เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวข้ึนตามดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ และยังได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงด้วย (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากดอลล่าร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาแพงข้ึน และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ (อินโฟเควสท์)

รัฐบาลเตรียมโอนเงินรอบสอง คนละครึ่งเฟส 3: รัฐบาลเตรียมโอนเงินให้ผู้มีสิทธ์ิลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 3 รอบที่สอง เริมวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 64 จำนวน 1,500 บาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในไตรมาสที่ 4

แบงค์ชาติจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าระบบ 9 หมื่นล้านหยวน: ผ่านการทำ Repo อายุ 7 และ 14 วัน ซึ่งถือเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องภายในหนึ่งวันของ PBOC ที่มีมมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หวังป้องกันสภาพคล่องตึงตัวจากปัญหา Evergrande

TU: ซุ่มเจรจาซื้อหุ้น RBF จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือ 10% จากกลุ่มรัตนภูมิภิญโญ เพื่อต่อยอดธุรกิจอาหารสู่ ตลาดโลกแบบครบวงจร แหล่งข่าวระบุเคาะราคาหุ้นละ 16 บาท รวมมูลค่า 3,200 ล้านบาท คาด TU ได้ส่วนต่าง 800 ล้านบาท

TEAMG: คว้างานที่ปรึกษาหลักในการบริหารโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 415.61 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 3,700 ล้านบาท จ่อเซ็นต์งานเพิ่มอีก 200 ล้านบาท ในไตรมาส 4/64

PTT: จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.20 บาท ผลตอบแทน 3% ขณะที่ครึ่งปีหลังลุ้นจ่ายอีก 0.80 บาท หลังแนวโน้มธุรกิจทยอยฟื้นตัว พร้อมปรับทัพแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร 5 ตำแหน่ง ขณะที่ PTTEP ลูกพลังงานสะอาดตั้งเป้ารายได้ธุรกิจใหม่ 20% ภายในปี 73

Report & Corporate News

BBL Maintained BUY TP 154.00 บาท: คาดกำร 3Q64 ของ BBL จะเพิ่มขึ้น yoy และ qoq เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองที่ลดลง การเติบโตของกำไรของ BBL คาดว่าจะทําได้ดีกว่าคู่แข่ง โดยคาดว่าจะเพิ่มข้ึน 41%yoy ในปี 202 0และจะเพิ่มข้ึนต่อเนื่อง 15%yoy ในปี 2022 มูลค่าหุ้นยังถูก เนื่องจากหุ้นซื้อขายที่ 0.4x 2022F P/B หรือ -2SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (2016-19) คงคำแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 154 บาท

TU: แวดวงวาณิชหึ่ง TU : ซุ่มเจรจาซื้อหุ้น RBF จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือ 10% จากกลุ่มรัตนภูมิภิญโญเพื่อต่อยอดธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลกแบบครบวงจร วงในระบุเคาะราคาหุ้นละ 16 บาท รวมมูลค่า 3,200 ล้านบาท เชื่อ TU ได้ส่วนต่างทันที 800 ล้านบาท จากกระดานเทรดล่าสุดเฉลี่ย 20 บาท ส่วนรัตนภูมิภิญโญ ฟันกําไร 3,000 ล้านบาท หากคิดต้นทุนพาร์ 1 บาท ขณะที่ผู้เกี่ยวข้อง 2 ฝ่าย เงียบกริบ ไร้คำยืนยันหรือปฏิเสธ (ข่าวหุ้น)

PTT: ปตท. จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.20 บาท ผลตอบแทนสูง 3% กระทรวงการคลังรวยปลื้มรับเงินปันผล 1.75 หมื่นล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีหลังรุ่นจ่ายอีก 0.80 บาท หลังแนวโน้มธุรกิจทยอยฟื้นตัว พร้อมปรับทัพแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร 5 ตำแหน่ง ฟาก PTTEP ลูกพลังงานสะอาด ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจใหม่ 20% ภายในปี 73 (ข่าวหุ้น)

TEAMG: คว้างานที่ปรึกษาหลักในการบริหารโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 415.61 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 3,700 ล้านบาท จ่อเซ็นต์งานเพิ่มอีก 200 ล้านบาท ในไตรมาส 4/64 (ข่าวหุ้น)

KBANK/TTB: มูด้ีส์ฯ แชมแบงก์ไทยเงินกองทุนสุดแกร่งตั้งการ์ดแน่นเปรี๊ยะ ด้วยการตั้งสำรองสูงกว่า 152.2% ลดความเสี่ยงหน้ีเสียได้ ด้านนักวิเคราะห์มอง KBANK น่าสนใจ หลังสินเชื่อพุ่ง 6% เกินคาด กำไรครึ่งปีหลังพุ่งแน่ และ P/BV ต่ำเพียง 0.64 เท่า ส่วนฟิทช์เรทติ้งส์ปรับเพิ่มอันดับเครดิต TTB เป็น BBB จากเดิม BBB- หลังรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ (ข่าวหุ้น)

BEM: รฟม.ลุยสายสีส้ม สัปดาห์นี้จัดประชุมคณะกรรมการ ม.36 พร้อมผู้สังเกตการณ์ร่างเกณฑ์ชิงรถไฟฟ้าสายสีส้ม เปิดไทม์ไลน์ประกาศเชิญชวน ตุลาคมรับซองธันวาคม 2564 ได้ผู้ชนะเมษายน 2565 ชี้ทางโล่งผ่านทุกคดีเก่าหลังเอกชนรับเงินคืนหมดแล้ว ด้านนักวิเคราะห์และจับตาเกณฑ์ให้คะแนนเทคนิค 30% จะส่งผลดีต่อ BEM หากชนะ อัพไซด์เพิ่ม 1.50 บาท (ทันหุ้น)

AWC: บิ๊ก AWC “วัลลภา ไตรโสรัส” เชื่อกรุงเทพฯแซนด์บ็อกซ์ดึงต่างชาติได้ชี้สัดส่วนห้องพักกรุงเทพฯ 60-70% แนะรัฐกระตุ้นท่องเที่ยว ลดการกักตัว ชี้ไทยเป็นเป้าหมายเที่ยวยาว เหตุค่าครองชีพไม่สูง มองอัตราการเข้าพักไตรมาส 4/2564 เกิน 10% ปีหน้าฟื้นตัวแรง ชี้มีติดต่อขายโรงแรมเพียบ พร้อมศึกษาเข้าซื้อกิจการต่อเนื่องหากเป็นดีลที่ดี (ทันหุ้น)

AJ: สแกนผลงาน AJ แนวโน้มโตดีตามตลาดแผ่นฟิล์มที่แข็งแกร่ง จากการเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในโลกที่ผลิตแผ่นฟิล์ม BO ครอบคลุมทุกชนิด และครบวงจร ขณะที่บริษัทมีแผนขยาย 3 สายกำลังการผลิตใหม่ต่อเนื่องในปี 2565 ประเมินกำไรปกติปี 2564-2565 ขยายตัว 43% และ 15% แนะนํา “ซื้อ” เป้า 27 บาท (ทันหุ้น)

TM: จับตาผลงานพลิกบวกจากครึ่งปีแรกขาดทุน 0.30 ล้านบาท ชี้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ขายดี เล็งโกยเงินเข้ากระเป๋า 100 ล้านบาท ช่องทางออนไลน์โตเด่น ลุยเจาะฐาน มั่นใจยอดขายปี 2564 เข้าเป้า 650-700 ล้านบาท เกาะติดกิจกรรมผ่าตัด Q4 หากทำได้ปกติเชื่อหนุนยอดพุ่งอีก (ทันหุ้น)

CPANEL:  เคาะราคา IPO อยู่ท่ี 6 บาทต่อหุ้น เตรียมตั้งโต๊ะเปิดจองวันที่ 21-23 ก.ย. 64 และคาดเข้าเทรดวัน แรกในตลาด mai วันท่ี 30 ก.ย. นี้ หวังระดมทุนสร้างโรงงานแห่งท่ี 2 จัดเต็มเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated เสริมแกร่ง (ทันหุ้น)

- Advertisement -