Reopening play: ติดตามการประชุมของ ศบค. ในวันศุกร์ที่ 24 ก.ย. โดยรัฐมนตรีท่องเที่ยว เผยเตรียมชง ศบค. วันที่ 23 ก.ย. พิจารณาแผนเปิดประเทศเพิ่มอีก 5 จังหวัด กทม. ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบฯ  เชียงใหม่ สำหรับ กทม. หากเร่งเข็ม 2 ได้ถึง 70% จะเปิดได้ 15 ต.ค.

Domestic consumption: ติดตามรัฐบาลเตรียมโอนเงินรอบ 2 คนละครึ่งเฟส 3 ดีเดย์ 1 ต.ค.หวังกระตุ้นใช้จ่าย Q4/64 จำนวน 1,500 บาท โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ สั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platform ในรอบนี้ได้ด้วย ทั้งนี้โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 24.18 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 65,881.5 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 33,509.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,371.9 ล้านบาท และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 74,956 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,115 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 86 ล้านบาท ติดตาม ศบค. อาจมีการคลายล็อกโรงหนัง ซึ่งจะเป็นบวกกับ MAJOR หลังจากที่ผ่านมาต้องปิดให้บริการใน 27 จังหวัด จำนวน 85 สาขา จากที่มีสาขาทั้งสิ้นกว่า 172 สาขา ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ทำรายได้เป็นสัดส่วน 80% ของรายได้ทั้งหมด โดยเตรียมปรับตัว สู่ยุค cashless cinema จองตั๋วผ่านตู้อัตโนมัติ-ชำระเงินผ่านบัตร ลดการสัมผัส นำร่อง 59 สาขา กรุงเทพฯ ปริมณฑล หัวเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันมีภาพยนตร์รอลงจอในช่วง 3 เดือนหลังโค้งท้ายปีเป็นจำนวนมาก อาทิ Fast & Furios 9, Black Widow, Shang Chi, Spider-Man : No Way Home ซึ่งจะเข้าฉายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 เรื่อง

Export sector: ติดตามทิศทางค่าเงินบาทซึ่งล่าสุดอ่อนค่ากว่า 1.7% WoW เป็น 33.29 บาทต่อดอลลาร์จากความกังวลเรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะของไทยและจาก Dollar index ที่แข็งค่าขึ้น 0.65% WoW เป็น 93.264 จุด ก่อนประชุมเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. ซึ่งต้องตามดูหากค่าเงินบาทอ่อนค่าทำ Higher high ทะลุ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ก็จะหนุนกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นต่อ แต่หากเงินบาทเปลี่ยนเทรนกลับไปแข็งกรณีที่รัฐบาลสามารถเปิดประเทศได้สำเร็จใน 4Q21 กลุ่มส่งออกจะถูกขายทำกำไร

Commodities linked sector: ติดตามทิศทางราคาสินแร่เหล็กที่ปรับตัวลงกว่า 22% Wow เหลือ 100 เหรียญต่อตัน เนื่องจากทางการจีนออกนโยบายควบคุมการผลิตเหล็กให้เท่ากับปีก่อน รวมถึงการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ กระทบอุปสงค์ของสินแร่เหล็ก ดังนี้หากการนำเข้าสินแร่เหล็กชะลอตัวอาจกระทบค่าระวางเรือขนาด Capesize และส่งผลต่อดัชนี BDI ด้วย ทั้งนี้ดัชนี BDI ล่าสุดยังปรับตัวขึ้น 1.4% เป็น 4,275 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำจุดสูงสุดในรอบ 12 ปี และบวก 10.6% WoW

มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน วันนี้คาด SET 1620-1630 หุ้นแนะนำ JWD, BAM

1) JWD (ราคาพื้นฐาน 19.10  บาท) คาดว่าบริษัทจะมีทิศทางกำไรรายไตรมาสดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แผนการลงทุนใหม่ในหลากหลายธุรกิจ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น2) BAM (ราคาพื้นฐาน 22.00 บาท) รายงานกำไร 2Q21 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 7%/18% ตามลำดับ และคาดว่าผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง (+71% HoH) ระดับมูลค่ายังน่าสนใจ P/BV 1.44 เท่าถูกกว่าในกลุ่มและเป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเมือง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ 

วันจันทร์ ติดตาม การประชุมคณะกรรมการเงินการคลังเรื่องปรับเพดานหนี้สาธารณะว่าจะขยับเป็น 65%หรือ 70% หรือมากกว่านั้น ตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ของไทยเดือน ส.ค.

วันอังคาร ติดตาม ตัวเลข Housing starts ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +1.7% MoM เป็น 1.534 ล้านยูนิต ขณะที่ตัวเลข Building permits ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -1.8% MoM เป็น 1.6 ล้านยูนิต

วันพุธ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% การกำหนดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate 1 ปีของจีนคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.85% ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยต้องติดตามเรื่องแผน QE ของเฟด ตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและ Dot plot

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ส.ค. คาด +18.5% YoY และ 38.3% YoY ตามลำดับ และคาดไทยเกินดุลการค้าในเดือน ส.ค. 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash เดือน ก.ย. ของยูโรโซนคาด -1.5% MoM เป็น 60.5 จุด ขณะที่ตัวเลข Markit Service PMI Flash เดือน ก.ย. ของยูโรโซนคาดทรงตัว MoM ที่ 58.7 จุด ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ และตัวเลข Markit Service PMI Flash เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด 3.10 แสนคน

วันศุกร์ ติดตาม ดัชนี Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด -0.5% MoM เป็น 98.9 จุด ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.5% MoM เป็น 7.1 แสนยูนิต และถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด

- Advertisement -