ตลาดหุ้นวานน้ี:
SET Index ปรับตัวลงจากแรงกดดันในภูมิภาคจากประเด็นปัญหาหนี้ของ Evergrande รวมรอดูผลการประชุม FED กลางสัปดาห์ ส่งผลให้ดัชนีปิดลบ 6.05 จุด ณ สิ้นวัน โดยแรงขายหลักมาจากสถาบันในประเทศ ที่ขายสุทธิในตลาดหุ้นสูงถึง 4.4 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายบางๆเพียง 277ลบ. (และพลิกมา Long Index Future 4.5 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันน้ี:
เราประเมิน SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,590-1,615 จุด โดยรวมยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ตลาดยังกังวลต่อปัญหาหนี้ของ Evergrande ซึ่งกระทบเชิง Sentiment แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจำกัด และกระทบทางอ้อมจากเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัว ส่วนการประชุม FED วันท่ี 21-22 ก.ย. นี้ ยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนรอติดตามว่าจะมีการส่งสัญญาณลดขนาด QE เพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด โดยรวมเรายังมอง Dollar Index ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า และบาทยังอ่อนระยะสั้น เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออก ส่วนกลุ่มที่ถูกกระทบจากประเด็น Evergrande จำกัด ได้แก่ Domestic Play อย่างกลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ รับเหมาฯ เป็นต้น เรายังมองจังหวะพักตัวของดัชนีเป็นโอกาส “ทยอยสะสม” กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ไฟแนนซ์ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว ที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจไทย โดยจุดรับหลักอยู่ที่ 1,580-1,600 จุด
กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว และสะสมหุ้นกลับในช่วงตลาดพักตัวบริเวณ 1,580-1,600 จุด
หุ้นเด่นเดือน ก.ย.: BDMS,CPALL,CRC,M,TACC
หุ้นเด่นวันนี้: CHG
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 4.70 บาท
- คาดกาไร 3Q21 แข็งแกร่ง ทำ New High ประคองราคาหุ้นจากการระบาดของ COVID-19 ระลอกล่าสุด หนุนรายได้จากการรักษาให้เร่งขึ้นอย่างมีนัยยะ เบื้องต้นเราคาดกำไร 650-700 ลบ.
- แนวโน้ม 4Q21 อาจอ่อนตัวลง แต่ยังเป็นระดับที่แข็งแกร่งและมีแรงหนุนจากการฉีดวัคซีน Moderna ส่วนราคาหุ้นที่ปรับฐานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้ Upside เปิดกว้างและน่าสนใจ
- แนวรับ 3.70 บาท แนวต้าน 3.90-4 บาท
Fund Flow:
วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคบางๆ US$24 ล้าน เนื่องจากหลายตลาดปิดทำการ ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทางไหลออก นำโดยอินโดนีเซียและไทย US$17 ล้านและ US$8 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลออกจากแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และคาดการณ์ว่า FED จะส่งสัญญาณลด QE ชัดเจนขึ้นในการประชุม 2 วันนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) คกก. นโยบายการเงินการคลังเห็นชอบขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% จากเดิม 60% เนื่องจากระยะสั้นเศรษฐกิจยังเปราะบาง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายการคลัง ยังมีความจำเป็นเพื่อประคองให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงแรกหลังผ่านวิกฤติ COVID-19 ส่วนระยะยาวต้องอาศัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนและสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ โดยรวมเรายังมองบวกระยะยาวต่อกลุ่ม Domestic Play ทั้งค้าปลีก อาหาร รับเหมาฯ ธนาคาร
(+) JR การประชุม Opp Day วานนี้ โทนค่อนไปในทางบวก ระยะสั้นกำไร 3Q21 คาดทรงถึงลงเล็กน้อย Q-Q เพราะถูกกระทบจากการ Lockdown แต่โดยรวมถือว่าค่อนข้างจำกัด ขณะท่ี Y-Y คาดยังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่กำไร 4Q21 จะเร่งขึ้นทำ New High อีกครั้ง ปัจจุบันมี Backlog 5.3 พันลบ.และคาดได้วานเพิ่มในปีหน้าอีกราว 7 พันลบ. ซึ่งจะทำให้ทะลุ 1 หมื่นลบ. ยังคาดกำไรปี 2021 +229% Y-Y และ +23% Y-Y ใน ปี 2022 คงราคาเป้าหมายท่ี 8.80 บาท มอง Downside จำกัดแนะนำ “ซื้อ”
(0) RT การประชุม Opp Day โทนเป็นกลาง ล่าสุด 3QTD รับงานเพิ่ม 615 ลบ. ทำให้ Backlog เพิ่มเป็น 3.6 พันลบ. และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 616 ลบ. ส่วนงานอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย -เชียงราย-เชียงของคาดเซ็น ได้ปลายปี ระยะสั้นกำไร 3Q21 ดีขึ้น Q- Q และเร่งตัวขึ้นใน 4Q21 เรายังคาดกำไรปี 2021-2022-55%Y-Y และ +105%Y-Y คงราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 2.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 614.41 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 33,970.47 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับบริษัท Evergrande แถลงว่ากำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และไม่อาจสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด โดยมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันที่ 23 ก.ย. จำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์ และในวันท่ี 29 ก.ย. จำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากความกังวลปัญหานี่ Evergrande รวมถึงชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมเฟด และธนาคารกลางอังกฤษในสัปดาห์นี้
(-) ตลาดเอเชียปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นดาวโจนส์และยุโรป จากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande Group ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดเป็นอันดับสองของจีน ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.40บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของ China Evergrande Group รวมถึงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลา์หรือ 0.71% ปิดที่ 1,763.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลประเด็น Evergrande
SPDR Gold Trust ถือ ครองทองคำ 1,001.66 / +-
