สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงในช่วงแรก ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ จากความกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande โดยดัชนีลดลงประมาณ 11 จุด หลังจากน้ันดัชนีค่อยๆฟื้นตัวต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มท่ีส่งผลบวกต่อดัชนี ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ธนาคาร และขนส่ง เช่น หุ้น SCB, AOT, GULF ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,614.86 จุด +11.80 จุด +0.74% มูลค่าการซื้อขาย 83,910 ลบ.ต่างชาติ +684.34 ลบ. TFEX +4,468 สัญญา ตราสารหน้ี -2,877.00 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ราคาน้ามันดิบWTI เพ่ิมขึ้น27เซนต์+0.4%ปิดท่ี70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับการคาดการณ์สต็อกน้ามันดิบของ สหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ท่ี 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการ ใช้น้ามันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

+ ทาเนียบขาว ระบุว่า นับต้ังแต่เดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไป สหรัฐจะ อนุญาตให้ผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสจาก 33 ประเทศซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย บราซิล เดินทางเข้าสหรัฐได้

+ วันนี้สภาผู้แทนราษฎรจะทาการอภิปรายและลงมติต่อร่าง กฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพ่ือสนับสนุนหน่วยงานของ รัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.

+ สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.9% ใน เดือนส.ค. สู่ระดับ 1.615 ล้านยูนิต สูงกว่าท่ีนักวิเคราะห์คาดที่ ระดับ 1.555 ล้านยูนิต จากระดับ 1.554 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.

+ สธ. เล็งอนุญาตให้ขายชุดตรวจ ATK ตามร้านค้าทั่วไปได้ ภายในสิ้นก.ย.

+ ครม.ไฟเขียว “เราเท่ียวด้วยกันเฟส 3” ใช้สิทธิ ต.ค. 64

+ ครม.ไฟเขียวกรอบงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี65ท้ัง44แห่ง วงเงินดาเนินการ 1.48 ล้านล้านบาท พร้อมอนุมัติงบกลาง 427.17 ล้านบาท

+ครม.เห็นชอบขอบเขตโครงการขอใช้เงินกู้ ภายใต้แผนฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ขยับ เพดานหนี้เป็น 70% ช่วยรัฐมีช่องกู้เพิ่มอีก 1.2 ล้านล้านบาท

+รมว.คลังเปิดเผยว่าขยับเพดานหน้ีสาธารณะเป็น 70% ทาให้ รัฐกู้เงินได้อีก 1.2 ล้านล้านบาท แต่ย้าจะกู้เมื่อจาเป็น และยังมี วงเงินกู้ค้างเก่าที่กู้ได้อีก 350,000 ล้านบาท ขณะท่ีภาคเอกชน- ธปท.หนุนขยายเพดานหนสี้าธารณะ

ปัจจัยลบ

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเช้ือรายใหม่รวม 11,252 ราย มีผู้เสียชีวิต 141 ราย รักษาหาย 13,695 ราย

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 50.63 จุด -0.15% กังวล เก่ียวกับการผิดนัดชาระหน้ีของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผล การประชุมเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วง เช้าตรู่ของวันพรุ่งน้ีตามเวลาไทย

– S&P คาดว่า บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปซึ่งเป็น บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ท่ีสุดอันดับสองของจีนมี แนวโน้มท่ีจะผิดนัดชาระหน้ี และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะ ไม่ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์

– สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพ่ิมข้ึน 0.5% สู่ระดับ 1.903 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2550

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการ ประชุมเฟดเช้าวันพรุ่งน้ีตามเวลาไทย ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีแรงหนุนจากโครงการเราเท่ียวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์ เที่ยวไทย คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,623 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Domestic Play ADVANC CPALL BTS BEM TNH

• เราเท่ียวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย AOT MINT ERW CENTEL ASAP

• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ TOP SPRC PTTGC

• ตลท.จ่อปรับเกณฑ์คำนวณ SET50 – SET100 หุ้นที่ได้รับผลเสีย DELTA NRF PSL INTUCH หุ้นท่ีได้ประโยชน์ BBL SCB KBANK TISCO

• หุ้น Cyber Security SECURE AMR DITTO VCOM

หุ้นรายงานพิเศษ

SKN – 2H21 เติบโตต่อเนื่อง (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 10.20 บาท)

  • ผลการดำเนินงาน 2Q21 มีรายได้เท่ากับ 960.3 ล้านบาท เพิ่มข้ึน +28.9%QoQ และ +78.3%YoY ตามปริมาณการขายท่ีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอุปสงค์ในตลาดตะวันออกกลางที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับมีการปรับเพิ่มราคาสินค้า และการขายสินค้าตามเงื่อนไขการขายแบบ CNF ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ท่ีระดับ 42.5% เพิ่มขึ้นจาก 35.1% ในไตรมาสก่อน และ 28.3% ใน 2Q20 เนื่องจากมีการปรับราคาขายขึ้น ประกอบกับ Utilization Rate ที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับมากกว่า 90% ซึ่งทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ประกอบกับได้แรงหนุนจากต้นทุนกาวและสารเคมีที่ลดลง หลังจากบริษัทย่อย เอส.คลีเบอร์ เคมีคอล ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2Q21 เท่ากับ 173.4 ล้านบาทเติบโต +100.5%QoQ และ +181.7%YoY
  • กำไรสุทธิงวด 1H21 คิดเป็น 95.8% ของประมาณการทั้งปีของเรา เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าคาด จากการปรับราคาขายได้สูง ขณะท่ีความต้องการสินค้ายังมีเข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับผลของการอ่อนค่าของเงินบาทจาก 31.3 บาท/ดอลลาร์ ใน 1Q21 และ 30.9 บาท/ดอลลาร์ ใน 2Q20 เป็น 32.0 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้น 2Q21 เราจึงปรับประมาณการรายได้ปี 21 ข้ึน +18.4% เป็น 3,048.4 ล้านบาท และปรับกำไรสุทธิข้ึน +60.3% สู่ระดับ 435.2 ล้านบาท โดยคาดผลประกอบการในช่วง 2H21 ยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามปริมาณการขายและอัตราการใช้กำลังผลิตเพิ่มข้ึน จากการฟื้นตัวของตลาดตะวันออกกลาง
  • ภายใต้สมมติฐานประมาณการใหม่ เราได้ราคาเหมาะสมปี 21 เท่ากับ 10.20 บาท (เดิม 6.40 บาท) ประเมินมูลค่าโดยอิง Average PE+1SD ที่ 18.8 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) SCB (Bloomberg Consensus 118 บาท) จับตา SCB ประชุมบอร์ด 9.00 น. วันน้ี สรุปแผนปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ แยกธุรกิจลีสซิ่ง-จำนำทะเบียนรถ ที่มียอดสินเชื่ออยู่กว่า 2 แสนล้านบาท ตั้งเป็นบริษัทใหม่ ดันเข้าตลาดหุ้นปีหน้า ด้วยมาร์เก็ตแคป 2.1 แสนล้านบาท ล่าสุดจับมือ ADVANC ตั้งบริษัทร่วมทุน “เอไอเอสซีบี” (AISCB) ลุยสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมแยกธุรกิจบัตรเครดิต-P2P Lending รวมถึงการเข้าสู่ธุรกิจคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อผลักดัน SCB ข้ึนเป็นโฮลดิ้งคอมพานี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AIE (Bloomberg Consensus – บาท) ผู้ถือหุ้นโหวต AIE ย้ายกระดานเข้าเทรด SET พร้อม รวมพาร์ “บิ๊กธนิตย์” ชี้ปลดล็อกข้อจำกัดกองทุน รับได้การติดต่อมาก หลังสร้างกำไรต่อเนื่องพร้อมปันผล แย้มไตรมาส 3 เด่นรถขนส่งวิ่งมากขึ้น เดือนหน้ากำลังผลิตกลับสู่พีค 7.5 แสนลิตรต่อวัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JKN (Bloomberg Consensus 11.30 บาท) พร้อมลุยธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ผนึกกำลังผ่านกลยุทธ์ Synergy กับกลุ่ม “ฮุนได โฮมช้อปปิ้ง เน็ตเวิร์ค คอปอเรชั่น” เพื่อกระตุ้นและสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าให้แก่ผู้บริโภค หวังผลักดันยอดขายสินค้าในกลุ่ม Commerce ภายในปี 2564 แตะระดับ 100 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PROS (Bloomberg Consensus – บาท) คว้างานใหม่เติมพอร์ต มูลค่า 330.54 ล้านบาท ท้ังโครงการภาครัฐและเอกชน พร้อมวางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าหลากหลาย เน้นเจาะกลุ่มโรงพยาบาล โชว์แบ็กล็อกปัจจุบัน 1.8 พันล้านบาท จ่อประมูลงานอีกกว่า 1.9 พันล้านบาท ลุ้นคว้างานโซน EEC อีกกว่า 1 พันล้านบาท (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

23 ก.ย.ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

29 ก.ย.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6/2564

30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย จัดสัมมนาวิชาการประจำปี (BOT Symposium 2021)

15 ต.ค. เปิดให้ท่องเที่ยวได้ใน 21 จังหวัด

ต่างประเทศ

21-22 ก.ย ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)

22 ก.ย. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.

สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ FOMC แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่23ก.ย.)

23 ก.ย. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

23 ก.ย. เอเวอร์แกรนด์ครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และ 29 ก.ย. กำหนดจ่ายดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

4 ต.ค. การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัส

- Advertisement -