OurView? ” ยังแข็งแรงไม่เพียงพอ”

คาดตลาดวันน้ี “แกว่งออกข้างอิงทางบวก” มองแนวรับที่บริเวณ 1,610 / 1,600 และแนวต้านท่ีบริเวณ 1,620 / 1,627 คาดตลาดให้ความสำคัญและรอดูผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในค่ำคืนนี้ เพื่อติดตามการส่งสัญญาณที่ชัดเจนเก่ียวกับการปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED รวมท้ังจับตาดู Dot plot หลังการประชุมเพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในระยะถัดไป เรายังคงคาด FED จะยังไม่เร่งข้ึนดอกเบี้ย คาดจะกระตุ้นให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้บ้าง

ขณะที่ปัญหาความกังวล China Evergrande ท่ีมีหนี้สินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าราว 2% ของ GDP ของจีน จะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในวันท่ี 23 / 29 ก.ย. นี้ คาดตลาดจะเร่ิมลดน้ำหนักกับประเด็นดังกล่าว ตามท่ีเราคาดไว้ว่าเป็นเพียงจิตวิทยาเชิงลบระยะสั้น-กลางกดดันทิศทางตลาด เงิน-ทุนในภูมิภาค โดยเรามองว่าอย่างไรก็ตาม ทางการจีนจะเร่งทยอยอัดฉีดเงินเข้าระบบต่อเนื่องเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลุกลามของปัญหาดังกล่าว

ในส่วนของปัจจัยในประเทศเรามีมุมเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานน้ี ครม. มีมติไม่ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน โดนจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ส่งผลให้ ศบค. สิ้นสภาพตามไป แต่เห็นชอบนำ พรก.โรคติดต่อขึ้นมาใช้แทน คาดจะกระตุ้นความหวังการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพิ่มเติมในช่วงเดือนหน้า อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ ครม. เห็นชอบให้ ททท. ปรับปรุงรายละเอียด โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน Phase III “ โดยรัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40% (ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน) สนับสนุนคูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% (ไม่เกิน 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท โดยดูตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด) จะเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียน 24 ก.ย. – 1 ต.ค. นี้ และคาดจะให้ประชาชนใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือนต.ค.64-ม.ค.65 มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มสายการบิน-ท่องเที่ยว

ขณะที่การปรับเพดานหนี้สาธาณะเพิ่มเป็นไม่เกิน 70% จากเดิมไม่เกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เรามองจะช่วยเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะถัดไป เพื่อเยียวยาผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นคาดจะถูกกดดันจากความกังวลในความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับ Rating จากบริษัท Rating โลก คาดจะเป็นปัจจัยกดดันนักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนได้บ้างในระยะสั้น

ท้ังนี้ยังคาดตลาดยังมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันจากแรงขายกำไร – ลดความเสี่ยงหุ้นท่ีมีโอกาสถูกปรับเกณฑ์ในการหาหุ้นเข้า SET50 และ SET100 บ้าง หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมที่จะพิจารณาทบทวน- ปรับเกณฑ์ดังกล่าวคาดจะยังเป็นปัจจัยกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “TOP”

แนวรับ 49.00 / 48.50 Target 51.00 / 53.00 Stop <48.00

- Advertisement -