Daily View

ผลประชุม FED เมื่อคืนที่ผ่านมา มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม สอดคล้องกับที่ตลาดประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม ทาง FED ระบุว่าเรื่องของการลดวงเงิน QE จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างผ่อนคลายมากกว่าตลาดประเมินไว้  เนื่องจากไม่ได้ระบุกรอบเวลาชัดเจนว่าจะเดือนไหนหรือลดเท่าไร ส่วนเรื่องของดอกเบี้ยถือว่าเข้มงวดกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจาก FED ระบุชัดเจนว่า จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 22 ราว 1 ครั้ง มาอยู่ที่ 0.25 – 0.5% ขณะที่ Dot Plot เสียงเริ่มแตกจากการประชุมงวด มิ.ย. ความเห็นส่วนใหญ่ระบุว่าปี 22 ควรคงดอกเบี้ย แต่ประชุมครั้งนี้ปี 22 เสียงระหว่างขึ้นดอกเบี้ยกับคงดอกเบี้ยเท่ากัน พร้อมปรับ GDP Growth ปี 21 ลงเหลือ 5.9% จากประชุมมิ.ย. 7% เชื่อว่าเป็นเพราะการระบาด COVID-19 รอบล่าสุดของสหรัฐ ส่วนปี 23 ปรับ GDP Growth เป็น 3.8% จากคาดการณ์ก่อนหน้า 3.3% บ่งชี้ว่า FED มีมุมมองเศรษฐกิจปีหน้าที่ดีขึ้น ดังนั้นสรุปได้ว่าผลการประชุม FED ดีกว่าตลาดประเมินไว้เล็กน้อยจากเรื่องของ QE ที่ยังไม่ระบุเวลาและปริมาณชัดเจน แต่ถูกกดดันจากเรื่องดอกเบี้ยที่คล้ายว่าเข้มงวดกว่าตลาดมองไว้เล็กน้อย สังเกตได้จาก Dow Jones ที่มีจังหวะของการลดช่วงบวกลงมาจากจุดสูงสุด ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอาจได้จิตวิทยาเชิงบวกบ้างในระยะสั้น ส่วนระยะกลางเชื่อว่าปัจจัยเกี่ยวกับ COVID-19 รวมถึงแผนเปิดประเทศมีผลมากกว่า เรื่องของ FED ขณะเดียวกันเมื่อคืนราคาน้ำมันดิบพลิกบวก 2.5% หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงทดสอบระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ เป็นบวกต่อ (PTTEP) โดยมอง SET วันนี้ยังมีโอกาสเคลื่อนไหวแดนบวกกรอบ 1620 – 1627

สำหรับ SCB ระยะสั้นมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการประกาศแผน SCBX ส่วนระยะกลางมีโอกาสรับรู้มูลค่าเพิ่มจากการแยกธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมาอยู่ภายใต้ SCBX เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดปี 24 เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นแนะนำ (SCB) รวมถึงกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่วนระยะกลาง – ยาว ยังแนะทยอยสะสม Domestic ที่ราคายัง Laggard (AOT BJC CRC CPALL M PLANB)

Stock Pick

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 124.5 บาท) การจัดตั้ง SCBX ที่เป็น holding company เพื่อนำมาจดทะเบียนในตลาดแทน SCB หลังการแลกหุ้นจะเพิ่มความคล่องตัวในการเติบโตนอกธุรกิจธนาคาร ระยะสั้นมีมุมมองบวกต่อดีล SCBX โดยเฉพาะหากได้รับการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้น 15 พ.ย.นี้ แต่ไม่มีผลต่อประมาณการกำไร

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146 บาท) ระยะสั้นได้ปัจจัยบวกเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ส่วนพื้นฐานคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทใน 3Q21 จะเพิ่มขึ้น YoY ด้วยแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นขึ้น (+18%YoY) และราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น (+10%YoY) ในขณะจะที่อ่อนตัว

- Advertisement -