บล.ฟิลลิป:
ธนาคารไทยพาณิชย์ – SCB มีแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่
จัดตั้ง SCBX เป็นแกนแล้วถอด SCB ออกจากตลท.
จะมีการจัดตั้ง SCBX เป็นแกนลักษณะเป็น Holding company โดยจะมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 หมื่นลบ. หลังจากนั้นจะมีการเพิ่มทุน 3.4 หมื่นลบ. เพื่อรองรับการแลกหุ้นกับ SCB ในสัดส่วน 1:1 แล้วให้ SCBX ทำการซื้อ ขายใน ตลท. แทน หลังจากนั้นจะมีการถอดถอนหุ้น SCB ออกจาก ตลท. จะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติในวันท่ี 15 พ.ย. 64 และจะทำการ share swap ประมาณเดือน ม.ค. 65 และถอดถอน SCB ออกจาก ตลท. ประมาณเดือน ก.พ. 65
SCB จะจ่ายปันผลพิเศษ 7 หมื่นลบ.ให้กับ SCBX
หากการ share swap ผ่านไปได้ด้วยดี (ต้องได้การตอบรับจากผู้ถือหุ้นเกิน 90%) SCB ในฐานะที่จะกลายเป็น บ.ลูกของ SCBX จะจ่ายปันผลพิเศษจำนวน 7 หมื่นลบ. ขึ้นไปให้กับ SCBX โดย 70% ของเงินจำนวนนี้จะนำไปใช้ในการโอนธุรกิจบัตรเครดิตจาก SCB ไปให้กับ SCBX และจัดตั้งบริษัทใหม่คือ CardX มาดำเนินธุรกิจนี้แทน ส่วนท่ีเหลือจะใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับ SCBX และเผื่อไว้เพื่อจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น SCBX ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การจ่ายปันผลนี้จะเป็นการจ่ายจากผลประกอบการของ SCBX ตามปกติ และต้องผ่านการอนุมัติจาก ธปท. ก่อน ไม่ใช่การจ่ายปันผลพิเศษแต่อย่างใด
การปรับโครงสร้างจะทำให้มีความคล่องตัว รองรับการเติบโตได้
ภายหลังการปรับโครงสร้าง และ SCBX กลายเป็น บ.แกนหลักแล้ว บ.ลูกของ SCBX จะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1. กลุ่มธุรกิจธนาคาร SCB จะอยู่ในกลุ่มนี้และทำธุรกิจธนาคาร asset management, wealth management รวมไปถึง digital banking ด้วย 2. กลุ่มธุรกิจ consumer finance และ digital financial service ซึ่งจะประกอบไปด้วยบริษัทอย่าง Card X, Auto x (ทำธุรกิจจำนำทะเบียน) ALPHA X (ธุรกิจลีสซิ่ง) และบล.ไทยพาณิชย์ 3. กลุ่มธุรกิจ digital platforms และ technology services ประกอบไปด้วยหลายบริษัท เช่น SCB 10X , SCB ABACUS และ AISCB ท่ีเป็นการร่วมทุนกับ ADVANC เป็นต้น การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้การบริหารบริษัทในเครือของ SCBX ทำได้คล่องตัวขึ้น และเน้นการขยายต้วของบ.ลูก โดยหาก บ.ลูกเติบโตถึงจุดหน่ึงก็มีแผนท่ีจะเอาเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ต่อไป
แผน 5 ปี เน้นการเติบโต
แผน 5 ปีของ SCBX ประกอบไปด้วย การร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ จะทำให้ SCBX เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นถึง 200 ล้านคนทั่วภูมิภาคอาเซียน มีเป้าหมายท่ีจะเพิ่ม market cap ของ SCBX ขึ้นเป็น 1 ล้าน ลบ. และให้บ.ลูกเข้าจดทะเบียนในตลท.มีแผนเพิ่มผลประกอบการท่ีมีคุณภาพขึ้น 1.5 เท่า และให้บริษัทในกลุ่มเติบโต (บริษัทเช่น CardX, AISCB, AutoX, Robinhood เป็นต้น) มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่ม มีเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจ digital asset และมีเป้าหมายเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัท Fintech ไม่ใช่บริษัทที่ทำธุรกิจธนาคารอีกต่อไป
คงประมาณการและราคาพื้นฐาน ยังแนะนำ “ซื้อ”
ทางฝ่ายมองว่าการปรับโครงสร้างนี้มีประโยชน์กับกลุ่มท่ีจะขยายโอกาสในการเติบโต อย่างไรก็ตาม กว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น จะอยู่ในปี 65 และยังไม่น่าจะทำให้ผลประกอบการนั้นเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงยังคงประมาณการกำไรปี 64 – 65 ของ SCB ไว้เหมือนเดิม ที่ 37 และ 44 พันลบ. เพิ่มขึ้น 37.3% y-y และ 18% y-y ตามลำดับ ยังคงราคาพื้นฐาน 121 บาท มีส่วนต่างอยู่พอสมควร จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”