ปัจจัยต่างประเทศ: ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ FOMC ออกมามีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาด  และส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในไม่ช้าแต่ยังไม่ระบุว่าเมื่อไหร่ จากปัจจุบันที่ Fed ทำ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์/เดือน

ส่วนการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ Fed มีมุมมองต่อเศรษฐกิจเติบโตน้อยลงในปีนี้ โดยปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ (GDP) สู่ระดับ 5.9% จากเดิมคาดที่ระดับ 7.0% ขณะที่ปรับเพิ่มตัวเลข GDP ปี 2565-2567 สู่ระดับ 3.8%, 2.5% และ 2.0% ตามลำดับ และคงตัวเลขการขยายตัวในระยะยาวที่ระดับ 1.8%  ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อ Fed มีมุมมองเพิ่มสูงขึ้นในปี 2564-65 คาดสู่ระดับ 4.2% และ 2.2% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2566 ที่ระดับ 2.2% และคงอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.0% นอกจากนี้ Fed มีมุมมองต่อตัวเลขการจ้างงานแย่ลงเล็กน้อย โดยปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้ สู่ระดับ 4.8% ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2565-2566 ที่ระดับ 3.8% และ 3.5% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในระยะยาวที่ระดับ 4.0%

ส่วนประเด็นที่นักลงทุนสนใจอย่างแรกคือถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ภาพรวมถือว่าออกมาไม่ได้ดู Hawkish มากขึ้นกว่าเดิมนัก โดยยังมองที่ตัวเลขการจ้างงานที่ยังถือว่ายังไม่ได้ตามเป้า ขณะที่แผน  Dotplot รอบใหม่มีการขยับการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นเล็กน้อย โดยคณะกรรมการ Fed ส่วนใหญ่คาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปี 2565 ซึ่งเร็วกว่าเดิม 1 ปี เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ย. ซึ่งกรรมการ Fed คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566

ปัจจัยภายในประเทศ: SCB ประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่โดยจะเอาตัวเองเป็น financial holding group โดยจะเปลี่ยนจาก SCB เป็น SCBX โดยมีแผนจะดึงธุรกิจภายใต้แบงค์ที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียนในระยะข้างหน้าอีกด้วย อย่าง Card X, Auto X และ SCBS ที่มุ่งจะทำ Digital asset เพิ่มเติมเป็นต้น ทั้งนี้เราคาดว่าประโยชน์ที่จะได้คือความยืดหยุ่นในการบริหารงาน, การใช้เงินทุนที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและอาจหนุน ROE เพิ่มขึ้นในระยะยาว รวมถึงการ unlock value บริษัทลูกที่อยู่ภายใต้แบงค์ในอนาคต ดังนั้นเราชอบแผนการปรับโครงสร้างครั้งนี้ โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถ outperform กลุ่มได้ในระยะข้างหน้า ขณะที่การปรับโครงสร้างครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทขนาดกลางขนาดเล็กที่ทำธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อจำนำทะเบียนที่อาจถูกกดดันจากการที่มีรายใหญ่เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น

มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน วันนี้คาด SET 1625-1630 หุ้นแนะนำ SCB, BAM

1) SCB (ราคาพื้นฐาน 139.00 บาท) SCB จะปรับโครงสร้างองค์กรมาเป็น holding company ผ่านวิธี share swap กับ SCBx (จัดตั้งใหม่) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ การบริหารเงินทุนและเพิ่มมูลค่า เราชอบแผนธุรกิจนี้เพราะเห็น upside จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจที่มี PBV สูง 2) BAM (ราคาพื้นฐาน 22.00 บาท) รายงานกำไร 2Q21 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 7%/18% ตามลำดับ และคาดว่าผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง (+71% HoH) ระดับมูลค่ายังน่าสนใจ P/BV 1.44 เท่าถูกกว่าในกลุ่มและเป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเมือง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ 

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ส.ค. คาด +18.5% YoY และ 38.3% YoY ตามลำดับ และคาดไทยเกินดุลการค้าในเดือน ส.ค. 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash เดือน ก.ย. ของยูโรโซนคาด -1.5% MoM เป็น 60.5 จุด ขณะที่ตัวเลข Markit Service PMI Flash เดือน ก.ย. ของยูโรโซนคาดทรงตัว MoM ที่ 58.7 จุด ตัวเลข Markit Manufacturing PMI Flash เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ และตัวเลข Markit Service PMI Flash เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด 3.10 แสนคน

วันศุกร์ ติดตาม ดัชนี Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด -0.5% MoM เป็น 98.9 จุด ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.5% MoM เป็น 7.1 แสนยูนิต และถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด

- Advertisement -