ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัว Sideways ได้แข็งแรงกว่าที่คาดเล็กน้อย สามารถปิดบวกได้ 4.73 จุด โดยยังคงมีแรงประคองจากหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่ปรับขึ้นชดเชยแรงกดดันจาก DELTA และกลุ่มไฟแนนซ์ที่ปรับตัวลง สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 671 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 1 พันลบ. (ต่างชาติพลิกมา Short Index Future 4.7 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราประเมิน SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,610-1,630 จุดโดยผลประชุม FED ระบุว่าเตรียมเริ่มลด QE เร็ว ๆ นี้ และจะสิ้นสุดช่วงกลางปี 2022 สอดคล้องกับที่เราประเมินว่าจะลดขนาด QE ลงเดือนละราว US $ 1.5 หมื่นล้านส่วน Dot Plot สะท้อนมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นเป็นปี 2022 ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และกดดัน Flow ให้มีโอกาสไหลออก โดยเฉพาะตลาดพันธบัตร อย่างไรก็ตามเรายังให้น้ำหนักปัจจัยขับเคลื่อน SET Index อยู่ที่การทยอยเปิดเมือง และเปิดประเทศใน 4Q21-2022 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวมากกว่า โดยจับตาการประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย. ว่าจะมีมติคลาย Lockdown และเปิดเมืองท่องเที่ยวเพิ่มเติมหรือไม่ กลยุทธ์ส่วนที่แนะนำ “สะสม” หุ้นเพิ่มบริเวณ 1,600 จุด ให้ถือลงทุนต่อเนื่อง และยังชอบกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว

กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว // ส่วนที่สะสมเพิ่มบริเวณ 1,600 จุด เน้นถือลงทุนต่อเนื่อง

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BDMS, CPALL, CRC, M, TACC

หุ้นเด่นวันนี้: CKP

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 6.60 บาท
  • แนวโน้มกำไร 3Q21 ยังเร่งตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y แตะ 1-1.2 พันลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่จาก High Season โดยปริมาณน้ำที่เข้า NN2 และ XPCL ที่สูงขึ้น
  • คาดกำไรปี 2021-2022 +444% Y-Y และ +40% Y-Y และได้ประโยชน์จากแผน PDP2022 ที่เน้นขยายโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
  • แนวรับ 5.20-5.30 บาทแนวต้าน 5.60-5.70 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$1,344 ล้าน กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$1,340 ล้านชดเชยที่ปิดทำการในช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน โดยอินโดนีเซียไหลเข้า ส่วนไทยไหลออก US$31-36 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก หลัง FED ส่งสัญญาณเริ่มลด QE เร็วๆ นี้ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) SCB ปรับโครงสร้างครั้งใหญ 3 เรื่องหลัก 1) ตั้ง SCBX ขึ้นเป็นบริษัทแม่ และจะทำให้ Share Swap เข้า Listed แทน 2) Spin-off ธุรกิจบัตร 3) ตั้ง JV และ VC รุกธุรกิจ High Growth โดยเป้าหมายหลักคือการ Trasform จากธนาคารเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงิน เรามองบวกระยะยาว โดยเฉพาะการปลดล็อค Valuation ของบริษัทลูกต่างๆ รวมถึงปันผลพิเศษในอนาคตเบื้องต้นมูลค่าเพิ่มราว 17 บาท/หุ้น ยังคงชอบ SCB มากที่สุด และเป็น Top Pick แนะนำ “ซื้อ”

(0) DTAC คาดกำไร 3Q21 -4% Q-Q, -27% Y-Y จาก COVID-19 ที่กระทบรวมถึงการแข่งขันในตลาด Prepaid ที่ยังสูงส่งผลให้ทั้ง Subscriber และ ARPU ปรับตัวลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2021-2022 ขึ้นเป็น -23% Y-Y และ +8% Y-Y โดยประเมินว่าควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคาด และเลื่อนต้นทุนคลื่น 3500 MHz จาก 2022 เป็น 2023 เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 เป็น 42 บาท แนะนำ “ถือ” รับปันผล Yield 5% ต่อปี (Source: FSSIA)

(+) CENTEL คาดผลการดำเนินงาน 3Q21 จะขาดทุนใกล้เคียง 2Q12 ที่ราว 660-690 ลบ. โดยธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟท์ที่คาดมี OCC rate ดีขึ้น ขณะที่ร้านอาหารคาด SSSG หดตัวแรง 30-40% Y-Y จากการ Lockdown แนวโน้ม 4Q21 คาดฟื้นตัวจากทั้งมัลดีฟท์ที่แข็งแรงการ Reopening และมาตรการกระตุ้นของภาครัฐในไทยส่วน JV โรงแรมที่ดูไบคาดฟื้นตัวดี และได้แรงหนุนจาก Expo event เราปรับกำไรปี  2022-2023 ขึ้น 4-5% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 40 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) ITEL คาดกาไร 3Q21 เริ่มเร่งตัว +29% Q-Q, +22% Y-Y และจะทำสถิติสูงสุดของปีใน 4Q21 เพราะ COVID-19 ทำให้งานบางส่วนเลื่อนไปส่งมอบใน 4Q21-1Q22 คาดกำไรสุทธิทั้งปี 2021+37%Y-Y ชดเชย Dilution จากการใช้สิทธิของ ITEL-W2 ได้เงินที่ได้จากการแปลงสภาพ ITEL-W2 จะนำไปคืนเงินกู้ ทำให้สภาพคล่องดีขึ้น และเปิด room ในการลงทุนใหม่ๆ ด้วย Backlog ที่คาดสูงถึงกว่า 4 พันลบ.สิ้นปี 2021 ทำให้คาดกำไรปี 2022 โตต่อเนื่อง +29% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 6.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์เเพิ่มชึ้น 338.48 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 34,258.32 จุด หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวานน้ี และส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดวงเงิน QE ในไม่ช้าหากเศรษฐกิจมีความคืบหน้า แต่ยังไม่ระบุรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งต่างจากตลาดคาดว่าในเดือนพ.ย. รวมถึงคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของ China Evergrande Group หลังบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ในการเจรจาเกี่ยวกับแผนการชำระดอกเบี้ย

+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเนื่องจากคลายกังวลหลัง China Evergrande เปิดเผยว่าจะจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ในประเทศโดยนักลงทุนรอผลการประชุมเฟด

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมท่ามกลางติดตามการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ของ Evergrande ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องด้วยวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.52บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล เป็น 413.96 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ตั้งแต่เดือน ต.ค.2018

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดท่ี 1,778.8 ดอลล่าร์/ออนซ์ ท่ามกลางชะลอการซื้อขายก่อนรู้ผลการประชุมเฟด

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,000.79 / +

- Advertisement -