ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ 

บวกต่อกรอบจำกัด

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์/ ปรับขึ้นกรอบแคบๆ … หลังจากเมื่อวานตลาดหุ้นไทยทรงๆตัว เพราะแหล่งซื้อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ หักล้างกับแรงขายในหุ้น DELTA*… ส่วนในวันนี้ปัจจัยโดยรวมของตลาดหุ้นเป็นบวกเล็กน้อย ในฝั่งของสหรัฐฯ นั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวค่อนข้างแรง หนุนด้วยราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ และผลประชุมธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังไม่มีการประกาศ QE taper แต่อย่างใด (นักเศรษฐศาสตร์ KGI ประเมินว่าเฟดจะประกาศ taper ในเดือน พ.ย. นี้) นอกจากนี้เฟดได้ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐัฯ ปี 2564 เหลือ 5.9% จากเดิม 7.0% แต่ปรับเพิ่ม GDP ปี 2565 เป็น 3.8% จากเดิม 3.3% และเฟดยังปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ core PCE ปี 2564 เป็น 3.7% จากเดิม 3.0% สะท้อนมุมมองว่าเงินเฟ้อจะลดลงช้ากว่าเดิม… ทั้งนี้กรรมการเฟดยังปรับแผนภาพ dot plot โดยครึ่งหนึ่งของกรรมการ (9 จาก 18 คน) มองว่าดอกเบี้ย สหรฐั ฯ จะเริ่มปรับขึ้นในปี 2565 โดยน่าจะเป็นช่วงปลายปี ส่วนในฝั่งจีนนั้นนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ของ China Evergrande ซึ่งมีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันนี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศนั้น เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 13,256 ราย เสียชีวิต 131 ราย ขณะที่จำนวนผู้หายป่วยอยู่ที่ 13,829 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน: เก็งกำไร SCB*, ADVANC*, MAJOR*

  • SCB* (เป้าพื้นฐาน 122 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 108 บาท / แนวต้าน 114 – 123 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 140 บาท (Stop loss 103 บาท) 2) ประเมินการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น Holding company: SCBX เป็นการปลดล๊อก i) การทำธุรกิจของกลุ่มฯ ที่มีความแตกต่างกัน ii) ปลดล๊อก Valuation โดยเตรียม IPO บ.ลูกด้านธุรกิจบัตรเครดิต iii) คล่องตัวในการทำธุรกิจใหม่ๆ… นำอ่านรายละเอียดการปรับโครงสร้างและการเปลี่ยนหุ้น SCB ไปเป็น SCBX เพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Alert วันนี้เพิ่มเติม 3) Valuation ไม่แพงด้วย PBV 0.88 เท่า (-1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต 0.8 เท่า) … นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK* (รับ 121 บ./ ต้าน 125 – 130 บ./ Stop loss 118 บ.), BBL* (รับ 113 บ./ต้าน 115–120 บ./ Stoploss 111 บ.) โดยเราประเมิน Valuation ไม่แพงเช่นกัน และมีโอกาสทที่จะกระจายการลงทุนไปธุรกิจใหม่ๆในอนาคตเช่นกัน
  • ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 195 บาท / แนวต้าน 200 – 205 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-220 บาท (Stop loss 186) 2) ประเมิน Upside จากการ JV กับ SCB* ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์ม โดยถือหุ้นสัดส่วน 50:50 ซึ่งประเมิน Synergy ที่จะเกิดขึ้น คือ i) ADVANC* มีฐานลูกค้าและอุปกรณ์เทคโนโลยี ขณะที่ ii) SCB* มี Knowhow การวิเคราะห์สินเชื่อ คาดธุรกิจใหม่จะเริ่มดำเนินการใน 1Q65 … ทั้งนี้ขายวิจัยฯยังคงประมาณการฯ ไว้ตามเดิมก่อนเพื่อรอข้อมูลเพิ่มเติม 3) Valuation ไม่แพงด้วย Dividend yield +3% ต่อปี และ PBV 7.4 เท่า คิดเป็นเพียง -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 21.7 บาท/แนวต้าน 22.7 บาท หากผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 23.7 บาท (Trailing stop 21 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำ เนินงานพ้นจุดต่ำสุด โดยใน 3Q64 คาดจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น SF (ประเมินลุ้นปันผลพิเศษตอนปิดงบปี 2564) / 4Q64 คาดผลการดำเนินงานหลักเริ่มฟื้นตัว จากการทยอยปรับมาตรการล๊อคดาวน์ เตรียมเปิดโรงหนัง / ปี 2565 คาดผลการดำเนินงานหลัก Turnaround พลิกเป็นกำไรหลังกลับมาเปิดโรงหนังได้ 3) ประเมิน PBV อิงประมาณการมูลค่าทางบัญชีสิ้นปี 2564 (หลังบันทึกกำไรพิเศษขายหุ้น SF) เท่ากับ 2.2 เท่า ยังต่ำกว่า -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 2.6 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) ตามนัดโฮลดิงส์ SCBX แตก 15 กลุ่มธุรกิจลูก ! สวอปหุ้น SCB* เดิม 1 ต่อ 1-จับมือ CP สร้างโปรเจกต์ช้าง (ข่าวหุ้น) ไทยพาณิชย์ตั้งโฮลดิ้งปลดล็อค ธปท. แยกเป็น 15 ธุรกิจโยกไปบริษัทใหม่ “SCBX” สวอปหุ้นเดิม 1 ต่อ 1 หุ้นใหม่ พร้อมจับมือซีพีตั้งบริษัทร่วมทุน 2.6 หมื่นนล้านบาทลุยบล็อกเชน ตั้งบริษัทย่อยปล่อยกู้รถหรูร่วมกับมิลเลนเนียม กรุ๊ป รวมทั้งบริษัทบัตรเครดิตส่งซิกดันลูกเข้าตลาดภายใน 3-5 ปี แจกปันผลระหว่างกาล 7 หมื่นล้านบาท ลุ้นอีก 5 ปี มาร์เก็ตแคปทะลุ 1 ล้านล้านบาท

(+) จับตาประกาศผลโรงไฟฟ้าชุมชนวันนี้ ACE*-TPCH-CWT-CV ลุ้นเข้าวิน (ข่าวหุ้น ) “กกพ.” ประกาศผลเปิดซองราคาโรงไฟฟ้าชุมชน แข่งขันดุเดือดหนัก ราคาหนักจาก Fix Rate 30-80% “ACE*-TPCH-CWT-CV-UAC” ลุ้นเข้าวิน แอบครวญบางรายบิดราคาต่ำเกินจริง อาจซ้ำรอย SPP Hybrid Firm เมื่อ 2 ปีก่อน โครงการเป็นหมันเพียบ

(+) EE หันรุกธุรกิจสายเขียวจ่อร่วมทุน’นางฟ้ากัญชา’ (ข่าวหุ้น) EE ฮอต ราคาพุ่ง 13.45% เตรียมรับเงินขายโรงไฟฟ้า 1,200 ล้านบาท ลุยธุรกิจกัญชงแย้มมีเจรจา “แคนนาบิซเวย์” หรือ “นางฟ้ากัญชา” คาดประกาศการร่วมลงทุนกับพันธมิตรได้ไม่เกินต้นไตรมาส 4/64 ฟากโบรกฯ ชี้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรดันราคาหุ้นพุ่งรับการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหญ่

(+) DEMCO เล็งรุกธุรกิจ EV แบ็กล็อกอื้อ (ไทยโพสต์) นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.เด็ม โก้ หรือ DEMCO เปิดเผยว่าบริษัทมีความพร้อมในการขยายธุรกิจใหม่ไปสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV โดยในช่วงที่ผ่านมาจากกระแสการใช้รถ EV เพื่อลดมลภาวะ ทำให้ทั่วโลกตื่นตัว ดังนั้นจึงได้เริ่มเข้าไปศึกษา โดยในเบื้องต้นคาดจะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการทำสถานีไฟฟ้าย่อยสำหรับรองรับสถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ ทำให้ทั่วโลกตื่นตัว ดังนั้นจึงได้เริ่มเข้าไปศึกษา โดยในเบื้องต้นคาดจะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการทำสถานีไฟฟ้าย่อยสำหรับรองรับสถานีชาร์จไฟฟ้า เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอนาคตให้มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น

(+) TSE ขายโรงไฟฟ้าตุนสภาพคล่อง ‘พันล.’ (กรุงเทพธุรกิจ) บอร์ด “ไทย โซล่าร์” อนุมัติขายเงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-ที่ดินให้เช่าในญี่ปุ่นรับเงิน 1,027 ล้าน คาดทำรายการแล้วเสร็จไตรมาส 3/64 พร้อมนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน-ชำระคืนหนี้-ลงทุนโครงการใหม่

(+) TACC จับมือ BONCAFE ร่วมพัฒนาเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ (ข่าวหุ้น) TACC จับมือ BONCAFE ร่วมพัฒนาเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ มุ่งเป็นศูนย์นวัตกรรมวิจัยพัฒนาผลิตสินค้าแบบครบวงจร เพิ่มความหลากหลายของสินค้าหวังต่อยอดธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเชี่ยน

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BAM* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 19.0 บาท / แนวต้าน 19.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.5 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 2.6 บาท) แนวรับ 1.8 บาท / แนวต้าน 1.87 – 1.94 บาท (Trailing stop 1.8 บาท)
  • JMART*(เป้าพื้นฐาน 48 บาท) แนวรับ 43 บาท/แนวต้าน 44-45 บาท (Trailing stop 42 บาท)
  • SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.6 บาท / แนวต้าน 9.85 – 10.4 บาท (Trailing stop 9 บาท)
  • SAAM (เป้าพื้นฐานน 8.2 บาท) แนวรับ 5.9 บาท/แนวต้าน 6.2-6.5 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) แนวรับ 20.7 บาท/แนวต้าน 21.5-22.0 บาท ( Stop loss 20.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • DTAC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 38 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรจากการดำเนินงาน 3Q64 = 804 พันล้านบาท (-45% YoY, -29% QoQ) โดยผลการดำเนินงานที่คาดชะลอตัวลงในไตรมาสนี้ เป็นผลจากรายได้ที่ลดลง ขณะที่ต้นทุนรายจ่ายเพิ่มขึ้น แม้คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้นได้ใน 4Q64 แต่เนื่องจาก Upside จำ กัดแล้ว จึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”)
- Advertisement -