บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Siam Commercial Bank เตรียมตัวเปลี่ยนโครงสร้างธนาคารเป็นบริษัทโฮลดิ้ง

Event

ประชุมนักวิเคราะห์เพื่อชี้แจงแผนปรับองค์กรเป็น holdingcompany

Impact

จะใช้การสวอปหุ้น (share swap) จาก SCB เป็น SCBx SCB กำหนด 4 ขั้นตอนในการแปลงสภาพเป็นบริษัท holding company ได้แก่

1.) ตั้งบริษัทใหม่ SCBx โดยมีเงินทุนตั้งต้น 1 หมื่นล้านบาท

2.) เพิ่มทุนของ SCBx เป็น 3.4 หมื่นล้านบาท โดยการ swap หุ้น SCB เป็น SCBx ด้วยสัดส่วน 1:1

3.) SCB จ่ายเงินปันผลแบบ one-off 7 หมื่นล้านบาทให้กับ SCBx เพื่อเป็นเงินทุนหนุนหลังการโอนธุรกิจ และการตั้งบริษัทใหม่ ๆ ข้ึนมาอยู่ภายใต้ SCBx และเพื่อให้ SCBx จ่ายปันผลในอนาคต

4.) ถอนหุ้น SCB ออกจากตลาด และนำ SCBx เข้าไปจดทะเบียนในตลาดแทน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีผู้ถือหุ้นเดิมไม่น้อยกว่า 90% มีการสวอปหุ้นไปที่บ.โฮลดิ้ง ทั้งน้ี กระบวนการทั้งสี่ขั้นตอนต้องได้รับการอนุมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนพฤศจิกายน และได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายจาก ธปท.ก่อน

บริหารในรูปแบบโฮลดิ้งเพื่อความคล่องตัว แยกระบบ compliance, การเติบโต และความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจ ออกจากกัน

หลังจากที่ตั้ง holding company เสร็จแล้ว ธนาคารจะแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.) ธุรกิจบริการหลัก ด้านการธนาคาร (บริษทั cashcow) ได้แก่ ธนาคาร, ประกัน, กองทุน และ wealth management

2.) การเงินผู้บริโภค และ digital finance

3.) บริการบน platform ดิจิทัล & เทคโนโลยี เพื่อสร้างมูลค่าโดยผู้บริหารของธนาคารชี้แจงว่าการตั้ง holding และแยกบริษัทลูกออกจากกัน มีเป้าหมายเพื่อท่ีจะแยกการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์, ความเสี่ยง, อัตราการเติบโต, และเงินทุนออกจากกันให้เหมาะสมกับความต้องการท่ีแตกต่างกันของแต่ละบริษัท

มีเพียงธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่จะแยกออกจากธนาคารเพื่อทำ IPO ในอนาคต

นอกจากจะปรับโครงสร้างองคก์รเป็น holding company แล้ว บริษัทยังมีแผนจะแยกธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลออกจากธนาคาร แล้วตั้งเป็นบริษัทใหม่โดยใช้ชื่อว่า CardX จะดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ consumer banking ซึ่งตั้งเป้าจะขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดภายใน 3-5 ปี ทั้งนี้กลุ่มบริการสินเชื่อผู้บริโภค และสินเชื่อดิจิทัล (digital lending) จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธนาคาร โดยในกลุ่มน้ีจะมีการตั้งบริษัทใหม่ AutoX เพื่อให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนโดยเฉพาะ และ AlphaX (JV50:50 ที่ตั้งร่วมกับ Millennium Group)

Platform ดิจิทัล และเทคโนโลยีจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจต่างหาก

SCB10X ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้ SCB จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี โดยกลุ่มใหม่น้ีจะเป็นตัวสร้างมูลค่าให้กับธนาคาร เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ, big data, เงินสกุล crypto ใหม่ จะอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจนี้ทั้งหมด นอกจากน้ียังมีการตั้ง JV ใหม่อีกสองบริษัท คือ AISCB (JV 50:50) และ CPG-SCB (JV50:50) ซึ่งจะเป็นสิ่งที่แสดงถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วของกลุ่มธุรกิจ

Risks

TierI ต่ำลงกว่า 13%, ระดับทุนและ D/E ของบริษัทโฮลดิ้ง, ธุรกิจใหม่โตได้ช้า

Key Message

การตั้ง holding company มีทั้งข้อดีและก็เสีย โดยในแง่บวก จะทำให้แต่ละธุรกิจแยกความเสี่ยง, อัตราการเติบโต, เงินทุน และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ออกจากกัน แต่ในแง่ลบ ความกังวลเกี่ยวกับเงินทุนของบริษัท holding company และการอัดฉีดเงิน/ การลงทุนเข้าไปในกลุ่มเทคโนโลยี, รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอันดับความน่าเชื่อถือ อาจจะทำให้การจ่ายเงินปันผลเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว เรายังคงมองบวกกับประเด็นนี้ เพราะธนาคารยังสามารถใช้จุดแข็งของธุรกิจการธนาคารเพื่อทำการ cross-selling ได้ และในอีกแง่หน่ึง ยังจะเป็นการปรับธุรกิจสินเช่ือผู้บริโภค และบริการ non-bank ด้วย เนื่องจาก SCB ตั้งเป้าจะจับกลุ่ม mass ในระดับที่ต่ำลงของสินเช่ือผู้บริโภค และตั้งเป้า ROE ของธุรกิจการธนาคารและสินเช่ือผู้บริโภคไว้ที่ระดับ 15%

Outperform Maintained

Price as of 22 Sep 2021 110.00

12M target price (Bt/shr) 122.00

Unchanged/Revisedup(down)(%) Unchanged 10.9
- Advertisement -