ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ : 19838)

ปรับขึ้นต่อ

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับตัวขึ้นต่อ … หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้วตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงกว่าที่เราคาด หนุนโดยแรงซื้อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้มีปัจจัยอื่นๆ แต่อย่างใด สำหรับในวันนี้ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นบวกโดยเฉพาะฝั่งในประเทศเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ประเทศไทยฉีดวัคซีน COVID-19 มากกว่า 1 ล้านโดสเป็นครั้งแรก ขณะที่ทิศทางของตัวเลขติดเชื้อฯ ชะลอลงต่อเนื่อง เช้าวันนี้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 10,288 ราย เสียชีวิต 101 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 12,494 ราย และในวันนี้ที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่น่าจะมีการผ่อนคลายกิจการเพิ่มเติม รวมทั้งมีโอกาสขยับเวลาเคอร์ฟิวไปเป็น 22.00 ถึง 04.00 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 21.00 ถึง 04.00. ด้านปัจจัยต่างประเทศถือว่าเป็นกลาง และยังมีประเด็นต้องติดตามค่อนข้างมาก ได้แก่ i) สถานการณ์ของ China Evergrande Group หลังจากทางบริษัท ไม่ได้ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา (แต่การผิดนัดชำระหนี้อย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้น 30 วันหลังจากนี้ บริษัทจึงยังพอมีเวลา) ii) การแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายรวมทั้งประธานเฟด Jerome Powell ต่อคณะกรรมการ Coronavirus crisis ในสัปดาห์นี้ และ iii) สหรัฐฯจะรายงานเงินเฟ้อ core PCE เดือน ส.ค. ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่ง consensus คาดว่าเงินเฟ้อ core PCE จะอยู่ที่ 3.5% YoY เทียบกับ 3.6% YoY ในเดือน ก.ค.

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน: 2868)

เก็งกำไร KBANK*, PLANB *, ADVANC *

  • KBANK * (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 128 บาท / แนวต้าน 140-142 บาท (Stop loss 123 บาท) 2) ประเมินมีโอกาสปลดล็อค Valuation ในรูปแบบใกล้เคียงกับ SCB * (อาทิ เช่น การเตรียมขยายการลงทุนใน Fintech / การเตรียม IPO บ.ลูกเป็นต้น) ขณะที่ valuation ปัจจุบัน Laggard โดย PBV ต่ำเพียง 0.68 เท่า (SCB * มี PBV 1.05 เท่า) ……. สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไร SCB ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำเก็งกำไรในกรอบแนวรับ 125 บาท / แนวต้าน 140-145 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 120 บาท)
  • PLANB * (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.8 บาท และ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.2-6.4 บาท (Stop loss 5.4 บาท) 2) ประกาศเพิ่มทุน (RO 12.5: 1 ที่ราคา 5 บาท และแจก Warrant ฟรี 2:1 ราคาใช้สิทธิ 8 บาท) แต่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการเข้าซื้อสินทรัพย์ป้ายโฆษณาของ MACO ภายใน 1Q65 จะชดเชย Dilution effect จากการเพิ่มทุนได้ โดยปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น +53% เป็น 973 ล้านบาท (+ 1,000% YoY)…อ่านรายละเอียดดีลการซื้อสินทรัพย์ของ MACO เพิ่มในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ 3) ประเมิน Forward PE ปี 2565 หลังการปรับประมาณการฯ จะลดลงเหลือราว 26 เท่า ยังต่ำกว่า -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 37 เท่า
  • ADVANC * (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 195 บาท / แนวต้าน 200-205 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 220 บาท (Stop loss 186) 2) ประเมิน Upside จากการ JV กับ SCB * ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยถือหุ้นสัดส่วน 50:50 ซึ่งประเมิน Synergy ที่จะเกิดขึ้นคือ i) ADVANC มีฐานลูกค้าและอุปกรณ์เทคโนโลยี ขณะที่ ii) SCB มี Knowhow การวิเคราะห์สินเชื่อ คาดธุรกิจใหม่จะเริ่มดำเนินการใน 1Q65 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประมาณการฯ ไว้ตามเดิมก่อนเพื่อรอข้อมูลเพิ่มเติม 3) Valuation ไม่แพงด้วย Dividend yield +3% ต่อปีและ PBV 7.4 เท่าคิดเป็นเพียง 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต

 

หุ้นมีข่าว

(+) MAJOR*, SPA ศบค.ชี้ขาดลดเคอร์ฟิวผ่อนคลายสถานบันเทิง (กรุงเทพธุรกิจ) นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ศบค. ลุ้นพิจารณาลดเวลาเคอร์ฟิวลงเป็น 4 ทุ่มถึงตี 4 พร้อมผ่อนคลาย 11 กิจการ ร้านอาหารเล่นดนตรี โรงหนัง สปา ด้านกทม. เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 กว่า 46% เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเมืองท่องเที่ยวล็อตใหม่

(+) ACE ฮุบ 18 ไฟฟ้าชุมชน UAC มีรายได้เข้า 130 ล.(ทันหุ้น) ประกาศผู้ชนะโรงไฟฟ้าชุมชน 43 โครงการ ทึ่ง ACE กวาดมากสุด 18 โครงการ 50 เมกะวัตต์ คิดเป็น 1 ใน 3 ของโครงการทั้งหมด ด้าน CV เจ๋งคว้า 3 โครงการ 18 เมกะวัตต์ ส่วน UAC คว้า1 โครงการ ปลดล็อกโรงไฟฟ้าขอนแก่น โกยรายได้เพิ่มปีละ 130 ล้านบาท

(+) EP จัด 2.1 พันล้าน ซื้อ SSUT เพิ่ม 40% ดันโตก้าวกระโดด (ทันหุ้น) EP ควักทุน 2.1 พันล้านบาท ซื้อหุ้น SSUT เพิ่ม 40% ดันสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็น 80.96% จ่อบุ๊ครายได้เข้าทันทีในไตรมาส 3/2564 หนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด เดินเกมขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ต่อเนื่อง ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ เตรียม COD ตุลาคมนี้

(+) ATP30 เซ็นลูก PTT* คว้าเดินรถ E-Bus (ข่าวหุ้น) “เอทีพี30” เซ็นงานบริหารจัดการเดินรถ E-Bus กับ “อรุณ พลัส” บริษัทในเครือ PTT* แย้มศึกษาต่อยอดรถโดยสารไฟฟ้า และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า คาดชัดเจนใน 1-2 ปี ส่วนปีนี้คาดรายได้โต 15% หลังโควิด-19 คลี่คลาย

(+) PDI ลุยโรงแรมเต็มตัวรีแบรนด์ใหม่ BEYOND (ข่าวหุ้น ) ผู้ถือหุ้น PDI ไฟเขียวลุยธุรกิจโรงแรมเต็มตัวอนุมัติซื้อหุ้นอีก 49% ใน 2 โรงแรม “Four Seasons Hotel Bangkok-Capella Bangkok” เพื่อเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 100% ภายในปี 65 พร้อมอนุมัติขยายธุรกิจโซล่าฟาร์มที่เหลือทั้งหมด และเตรียมรีแบรนด์บริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ “เบาด์ แอนด์ บียอนด์” หรือ BEYOND

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BAM* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 18.7 บาท / แนวต้าน 19.6 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.5 บาท)
  • SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.8 บาท/แนวตา้น 10.4–10.7 บาท หากผ่านได้แนะนำไ  “Let profit run” (Trailing stop 9.4 บาท)
  •  SCB* (เป้าพื้นฐาน 122 บาท) แนวรับ 125 บาท / แนวต้าน 140 – 145 บาท หากผ่านได้แนะนำ  “Let profit run” (Trailing stop 120 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.7 บาท / แนวต้าน 22.7 – 23.7 บาท (Trailing stop 21 บาท)
  • JMART* (เป้าพื้นฐาน 48 บาท) แนวรับ 42 บาท/แนวต้าน 44-45 บาท (Trailing stop 42 บาท)
  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) แนวรับ 20.7 บาท/แนวต้าน 21.5-22.0 บาท (Stop loss 20.6 บาท)
  • SAAM (เป้าพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.9 บาท/แนวต้าน 6.2-6.5 บาท (Stop loss 5.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • PLANB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท ประกาศเพิ่มทุนแบบ RO 12.5 : 1 (ราคา 5 บาท) และแจก Warrant ฟรี 2:1 (ราคาใช้สิทธิ์ 8 บาท) เพื่อนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ป้ายโฆษณาของ MACO ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินเป็นผลบวกต่อการเติบโตของกำไร ชดเชย Dilution ที่เกิดขึ้นได้สุทธิแล้วหลังการปรับประมาณการฯ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 8.55 บาท (เดิม 6.1 บาท) และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
  • กลุ่มโรงไฟฟ้า น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯประเมินภาพรวมของแผน PDP หลายประเทศแล้วพบว่า การลงทุนในประเทศ จีน อินเดีย สหรัฐฯ เวียดนาม มีศักยภาพที่น่าสนใจสุด โดยหุ้นที่คาดได้รับประโยชน์จากแผน PDP ได้แก่ GULF* และ GPSC* เป็นหุ้นเด่นสำหรับการลงทุน / หุ้นเด่นในเชิงปันผลได้แก่ RATCH* และหุ้นที่คาดจะมีการเติบโตเด่นในระยะสั้นได้แก่ CKP*
  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” จากงบดุลธนาคารในเดือน ส.ค. ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินในภาพรวมยังใกล้เคียงกับในเดือนก่อนหน้า โดยธนาคารส่วนใหญ่ยังคงเน้นระมัดระวังเรื่องความเสี่ยง อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้นในเดือน ก.ย. จะเริ่มสะท้อนในเชิงบวก ทั้งนี้จากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าจะเป็นบวกต่อกลุ่มฯ ในด้านการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ เลือก KBANK*, SCB*, BBL* เป็นหุ้นเด่น
- Advertisement -