ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ : 19838)
ฟื้นตัว แต่น่าจะยังเหวี่ยงแรง
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันอังคารรีบาวด์ แต่จะยังคงผันผวนแรง หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าที่คาด โดยเผชิญแรงขายมากขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันฯ พลิกมาขายสุทธิค่อนข้างมาก ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง มีมุมบวกจากตลาดน้ำมันดิบที่แรลลี่ต่อเนื่องหลังจาก Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ณ สิ้นปี 2564 เป็น 90 ดอลล่าร์ฯ/บาร์เรล (เดิม 80 ดอลล่าร์ฯ ) แต่มุมลบน่าจะเป็นความไม่แน่นอนของปัจจัยในจีนเกี่ยวกับ China Evergrande Group ซึ่งมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้อีกครั้งในวันที่ 29 ก.ย. รวมทั้งการที่ตลาดรอดูการแถลงของประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อคณะกรรมการ Coronavirus crisis ในวันนี้ ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยถึงเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งเฟดเพิ่งเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเงินเฟ้ออาจจะปรับลงช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ (อาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และเป็นสาเหตุที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯปรับขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา) … ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ศบค. ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมเปิดสถานที่เพิ่ม ลดเวลา ASQ จาก 14 วัน เป็น 7 วัน และลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 21.00-04.00 เป็น 22.00-04.00 ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่เช้าวันนี้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำกว่าระดับหมื่นมาอยู่ที่ 9,489 รายเสียชีวิต 129 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 12,805 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน: 28868)
เก็งกำไร SPRC *, KBANK, PLANB *
- SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.3 บาท / แนวต้าน 9.65 – 10.0 บาท (Stop loss 9 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวก จากทั้ง i) ค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน และน้ำมันดีเซล สะท้อนภาคการเดิน / ขนส่งที่คาดจะฟื้นตัวใน 4Q64 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodities update) และ ii) ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรงโดย WTI ปรับขึ้น +9% MTD เป็น Sentiment บวกต่อโอกาสกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ 3) Valuation ยังไม่แพง PBV 1.32 เท่า (ต่ำค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า) ขณะที่คาดกำไรจากการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวเด่นใน 4Q64 ตามค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว
- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 134 บาท และ 132 บาท / แนวต้าน 140-142 บาทหากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 130 บาท) 2) ประเมินมีโอกาสปลดล็อค Valuation ในรูปแบบใกล้เคียงกับ SCB* (อาทิเช่นการเตรียมขยายการลงทุนใน Fintech / การเตรียม IPO บ. ลูกเป็นต้น) ขณะที่ Valuation ปัจจุบัน Laggard โดย PBV ต่ำเพียง 0.7 เท่า (SCB* มี PBV 1.03 เท่า) … สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไร SCB* ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำเก็งกำไรในกรอบแนวรับ 126 บาท / แนวต้าน 140-145 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 125 บาท)
- PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.6 บาท (Trailing stop 6.0 บาท) 2) ประกาศเพิ่มทุน (RO 12.5:1 ที่ราคา 5 บาท และแจก Warrant ฟรี 2:1 ราคาใช้สิทธิ 8 บาท) แต่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการเข้าซื้อสินทรัพย์ป้ายโฆษณาของ MACO ภายใน 1Q65 จะชดเชย Dilution effect จากการเพิ่มทุนได้ โดยปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น +53% เป็น 973 ล้านบาท (+1,000% YoY) … อ่านรายละเอียดดีลการซื้อสินทรัพย์ของ MACO เพิ่มในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ 3) ประเมิน Forward PE ปี 2565 หลังการปรับประมาณการฯ จะลดลงเหลือราว 27 เท่า ยังต่ำกว่า -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 37 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) ปลุกกระแส “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” (กรุงเทพธุรกิจ) เร่งฟื้นตลาดคนไทยปูทางต้อนรับต่างชาติใกล้ได้ฤกษ์เปิดจองใช้สิทธิโครงการรัฐ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศให้เริ่มจองโรงแรมที่พักได้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2564-23 ม.ค. 2565 เดินทางได้จริง 15 ต.ค. 2564-31 ม.ค. 2565 หลังจากเปิดระบบให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 24 ก. ย. ที่ผ่านมา
(+) ANAN ลุยเพิ่มทุนเสริมแกร่งธุรกิจจองซื้อ 22-26 พ.ย. (ทันหุ้น) บอร์ด ANAN อนุมัติเพิ่มทุนโดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,666.50 ล้านหุ้น โดยจำนวน 833.25 ล้านหุ้น จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 1.55 บาทต่อหุ้น กำหนดวันเวลาจองซื้อหุ้นในวันที่ 22-26 พ.ย. 2564 เพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
(+) ผวาทั้ง SCBX ผวาทั้งจีนไฟแนนซ์-คริปโตร่วงยับ แบงก์ขึ้นยกแผงลือ KBANK* ตามรอยใบโพธิ์ (ข่าวหุ้น) หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ร่วงระนาวต่อ MTC* SAWAD* KTC* TIDLOR AEONTS* XPG ล่าสุดลามมากลุ่มเจมาร์ทหวั่นถูก SCBX ขย่ม และกังวลจีนปราบปรามคริปโตฯ ด้าน “อดิศักดิ์” JMART* ยัน SCBX ไม่มีผลกระทบกับกลุ่มฯ เชื่อมั่นซินเนอร์จี้กับบีทีเอสเติบโตตามแผน เงินเพิ่มทุนเข้าภายในเดือน ธ.ค. ปีนี้แน่นอน ขณะที่นักลงทุนแห่เก็งกำไร KBANK* เหตุลือซึ่งเตรียมปิดดีลใหญ่สัปดาห์นี้โบรกฯ มองโอกาสสูงขึ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ตาม SCB* ส่วนบริษัท ลูก KBTG ขยับปรับโครงสร้างบริหารใหม่ P/BV ยังต่ำ 0.66 เท่าเทียบกับ SCB ที่ 1.05 เท่า
(+) GLOBAL* สาขาน้ำไม่ท่วมซ่อมแซมมารุก 5 แห่งใหม่ (ทันหุ้น) GLOBAL* จ่อรับทรัพย์หลังน้ำท่วมลดหนุนดีมานด์ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนมากขึ้น ส่วนสาขาของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่การเปิดประเทศหนุนโอกาสปรับปรุงซ่อมอาคารโรงแรมมากขึ้น มั่นใจผลประกอบการทำนิวไฮ ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตสองหลักเดินหน้าเปิดสาขาอีก 2 แห่ง ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเปิดอีกราว 5 แห่ง เงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาท
(+) NRF* ขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (ข่าวหุ้น) NRF* ส่งบริษัทย่อย “ซิตี้ฟูด” เข้าถือหุ้น “โบทานีสตูดิโอ” 66.7% มูลค่า 36 ล้านบาท เข้าร่วมทุนธุรกิจผลิต-จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงรองรับการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/64
(+) GCAP รับพันธมิตรแตกไลน์ธุรกิจลง MOU ศึกษาสร้างสนามบิน “เกาะเต่า” (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “จีแคปปิตอลฯ ” แตกไลน์เปิดรับพันธมิตรเซ็น MOU ศึกษาความเป็นไปได้สร้างสนามบิน “เกาะเต่า” มั่นใจศักยภาพเชื่อหลังโควิด -19 คลี่คลายนักท่องเที่ยวไทย-เทศพร้อมเดินทาง เกษตรยังเป็นธุรกิจหลัก เผยเทรนด์หนุ่มสาวมีความรู้หันกลับภูมิลำเนาหาโอกาสทำธุรกิจต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต
(+) EE ผนึกพันธมิตรลุยกัญชง-กัญชา “(กรุงเทพธุรกิจ) “อีเทอเนลเอนเนอยี” ลั่นกำลังเจรจาพันธมิตรหลายรายเตรียมผนึกกำลังลุยธุรกิจ “กัญชง-กัญชา” หลังรับเงินขายหุ้นโรงไฟฟ้า SSUT จำนวน 1,246 ล้านบาท มั่นใจสร้างผลงานเติบโตโดดเด่น
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BAM* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 18.5 บาท / แนวต้าน 19.3 – 19.6 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.5 บาท)
- SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.8 บาท / แนวต้าน 10.4 – 10.7 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 9.4 บาท)
- MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.7-23.7 บาท (Trailing stop 21 บาท)
- ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 195 บาท / แนวต้าน 200-205 บาท (Stop loss 190)
- SAAM (เป้าพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.8 บาท / แนวต้าน 6.2-6.5 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- TIDLOR แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 32 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯและปรับลดเป้าหมาย PE ลงสะท้อนประเด็นลบ เรื่องการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้น ปรับคำแนะนำลงเป็น “ขาย” เดิม “ถือ”
