ปัจจัยต่างประเทศ: ติดตามประเด็นด้านนโยบายการคลังสหรัฐฯ (Fiscal policies) โดยสภาคองเกรสจะมีการโหวตร่างลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5.5 แสนล้านเหรียญ รวมไปถึงร่างงบประมาณและการขยายเพดานหนี้ ซึ่งหากตกลงกันไม่ได้ภายใน 30 ก.ย. นี้ก็อาจเกิด government shutdown ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวนได้ระยะสั้น ขณะที่สัปดาห์นี้จะมีการออกมาให้ความเห็นของประธาน Fed สาขาต่างๆ ตลาดติดตามดูท่าทีว่าจะมีความเห็นเชิง Hawkish มากขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามจาก Dot plot ที่ปรับล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้แสดงถึงท่าทีของ Fed ที่ Hawkish มากขึ้นไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นในสัปดาห์นี้ประเด็นเรื่องนโยบายการเงินคงไม่ได้ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยยะ โดยคาดว่านักลงทุนจะหันความสนใจไปที่สภาคองเกรสต่อประเด็นนโยบายการคลังดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นมากกว่า นอกจากนี้ให้ติดตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ซึ่งล่าสุดรุ่นอายุ 10 ปีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.49% และอายุ 30 ปีที่ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.00% อีกครั้ง ซึ่งหากยังขึ้นเร็วและแรงจะส่งผลกดดันตลาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่มเติบโต
ปัจจัยภายในประเทศ: สถาณการณ์โควิดในประเทศคลี่คลายต่อเนื่อง ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงตำกว่าระดับ 1 หมื่นราย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมายอดผู้ติดเชื้อ, ยอดผู้เสียชีวิตและผู้เข้าโรงพยาบาลต่างอยู่ในทิศทางขาลง ขณะที่การฉีดวัคซีนล่าสุดสามารถฉีดเข็ม 1 ได้กว่า 50 ล้านโดสทั่วประเทศหรือประมาณ 72% ของจำนวนประชากร โดยในกทม.ที่ฉีดเข็มหนึ่งไปแล้วกว่า 99% ส่วนการฉีดเข็มสองได้ประมาณ 45% ซึ่งหากทางภาครัฐยังสามารถฉีดวัคซีนได้เหมือนในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาก็คาดว่ารัฐบาลจะสามารถเปิดเมืองได้ตามแผนที่วางเอาไว้ โดยล่าสุด ศบค. มีมติผ่อนคลายมาตรการและเปิดกิจการเพิ่ม ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. อาทิเช่นการเปิดฟิตเนส, เล่นดนตรีโดยนักดนตรีไม่เกิน 5 คน และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การขยายเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4.00-22.00 เป็นต้น ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสสี่ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือสถาณการณ์น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนหลายแห่ง ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 27 ก.ย. – 2 ต.ค. 64 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน จะทำให้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยสถาณการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อ sentiment การลงทุนโดยเฉพาะหุ้นที่มีโรงงานการผลิตหรือหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีโรงงานอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม
มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน วันนี้คาด SET 1615-1630 หุ้นแนะนำ BEM, JMT
1) BEM (ราคาพื้นฐาน 10.11 บาท) คาดว่ากำไร 3Q21 แย่แต่จะฟื้นตัวใน 4Q21 โดย BEM ถือเป็นหุ้นกลุ่ม reopening ที่คาดว่าจะได้ sentiment บวกจากจากสถาณการณ์โควิดในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความหวังจากการชนะประมูล รฟฟ.สายสีส้ม 2) JMT (ราคาพื้นฐาน 50.25 บาท) เราคาดว่ากำไร HoH ในช่วง 2H64 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลพวงมาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากพอร์ตหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดแล้ว ขณะที่กลุ่มธุรกิจ AMC คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัดจากข่าว SCB ปรับโครงสร้างธุรกิจและจะหันมาสนใจธุรกิจของกลุ่ม nonbank มากขึ้น
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขดัชนีราคาบ้านของสหรัฐฯ โดย S&P/ Case-Shiler เดือน ก.ค. คาด +1.3% MoM และ +19% YoY ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด +0.6% MoM เป็น 114.5 จุด ถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell, Fed Bowman และ Fed Bostic
วันพุธ ติดตาม ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยเดือน ส.ค. คาด +0.17% YoY อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมของไทย และการประชุมนโยบายการเงินของ ธปท. คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน เดือน ก.ย. คาด -4 จุด (เทียบ -5.3 จุด เดือนก่อนหน้า) และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell และ ECB President Lagarde
วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Industrial Production เดือน ส.ค. ของเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นคาด +8.5% YoY และ +9.5% YoY ตามลำดับ ตัวเลข NBS Manufacturing PMI และ Caixin Manaufacturing PMI ของจีนเดือน ก.ย. คาด 50.2 จุด และ 49.6 จุด ตามลำดับ อัตราการว่างงานของยูโรโซนเดือน ส.ค.คาด 7.5% ทรงตัว MoM ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด 3.25 แสนคน
วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข Tankan Large Manufacturers index Q3 ของญี่ปุ่นคาด 13 จุด (เทียบ Q2 ที่ 14 จุด) ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของเกาหลีใต้เดือน ก.ย. คาด +17.5% YoY และ +26.6% YoY ตามลำดับ ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือน ก.ย. คาด +3.3% YoY ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 59.5 จุด ตัวเลข Construction Spending ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.3% MoM ตัวเลข Michigan Consumer Expectation เดือน ก.ย. คาด +3% MoM เป็น 67.1 จุด
