ลงจากภายนอก 1590 – 1620

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ลงจากภายนอก: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมาในกรอบระหว่าง1590 – 1620 จุด จากแรงกดดันภายนอก ทั้งประเด็นมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับเงินเฟ้อของประธาน FED และความกังวลเรื่องเพดานหนี้สหรัฐของรมว.คลัง ส่งผลให้วานนี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั้งในสหรัฐและกลุ่มประเทศยุโรปต่างปรับตัวลงราว 1.6–2.0% โดยล่าสุด Dollar Index ปรับตัวแข็งค่าชัดเจนมายืนที่ระดับ 93.72 จุด ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นต่อสู่ระดับ 1.55% ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางด้าน VIX Index หรือดัชนีวัดความผันผวนของ S&P500 ดีดตัวขึ้นมาที่ 23.25 จุด (+23.93%) สะท้อนว่านักลงทุนมีความรู้สึกไม่แน่นอนสูงออกตลาดหุ้นในอนาคต
  • ประธาน FED ส่งสัญญาณเงินเฟ้ออาจสูงนานหลายเดือน: ประธาน FED ได้ออกมาเปิดเผยมุมมองว่าเงินเฟ้อของสหรัฐ มีแนวโน้มจะอยู่ในระดับสูงออกไปอีกหลายเดือน จากปัญหา Supply Chain ที่มีผลกระทบลงแรงขึ้น และกินเวลายาวนานกว่าที่คิดเอาไว้ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาประธาน FED มักให้มุมมองต่อเงินเฟ้อสหรัฐในลักษณะที่เป็นเรื่องชั่วคราว (Transitory) จึงถือเป็นครั้งแรกที่มีการปรับมุมมองต่อเงินเฟ้อสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าหากเงินเฟ้อยืนอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานอาจทำให้ FED ต้องปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวมากขึ้นในอนาคต
  • Jenet Yellen แสดงความกังวลเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ: วานนี้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐออกมาเตือนว่า หากสภายังไม่สามารถอนุมัติให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐอาจถึงขั้นต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ (Default) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เนื่องจากกระทรวงการคลังในตอนนี้มีทรัพยากรทางการเงินอย่างจำกัดมาก และมีแนวโน้มจะหมดในเร็วๆ นี้ ทางฝ่ายมองว่าในท้ายที่สุด สภาฯ น่าจะต้องให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวออกมาเหมือนเช่นหลายครั้งที่ผ่านมาในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากแต่ผลกระทบระยะสั้นต่อความผันผวนของตลาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน
  • วันนี้ติดตามการประชุมกนง.ไทย: ทางฝ่ายยังคงมุมมองว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ตามเดิมจากความคืบหน้าเชิงบวกภายในประเทศหลายประการ เช่น การผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น และการเร่งฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 ยังเป็นไปได้ด้วยดี อันจะนำไปสู่การเปิดเมืองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะต่อไป
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐน่าติดตาม: คืนนี้ติดตามตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ ตลาดคาดลดลง 1.65 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลดลงราว 3.48 ล้านบาร์เรล ส่วนพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 3.35 แสนราย น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มขึ้นราว 3.51 แสนราย

Picks of the day

IVL ซื้อ

• แนวน้องครึ่งปีหลังการดำเนินงานอ่อนลงแต่ไม่มาก: แนวโน้มการดำเนินานครึ่งปีหลังจะอ่อนกว่าครึ่งปีแรกจากปัจจัยฤดูกาล อีกทั้งสเปรดจะลดลง โดยเฉพาะกลุ่ม PET ขณะที่กลุ่ม Fiber คาดอุปสงค์จะดีขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม mobility และ lifestyle หลัง COVID-19 คลี่คลาย ส่วน IODs คาดหวังการกลับมาผลิตของโรง cracker อีกครั้ง

• ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นช่วยหนุนกำไร: ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนกำไร โดยเฉพาะความได้เปรียบของการผลิตจาก shale gas ซึ่ง IVL จะได้ประโยชน์จากโรงงาน cracker ของบริษัท

TACC ซื้อ

• Sentiment การบริโภคดีขึ้น: ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม และลดชั่วโมงเคอร์ฟิวลง ทำให้คนออกนอกบ้าน และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น หนุนการบริโภคในประเทศค่อยดีขึ้น

• เติบโตมากขึ้น h-h: แนวโน้ม 2H64 เติบโตมากขึ้น h-h จากคลาย Lockdown และคนเข้า 7-11 มากขึ้น อีกทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง โดยยังไม่รวม i) เข้าไปใน Lotus’s และเป็น Supplier ให้กับ 7-11 กัมพูชา ซึ่ง เปิดสาขาแรกแล้ว ii) ร่วมกับ TCI ออกสินค้าใหม่ผสมกัญชง-กัญชา คาดเร็วใน 2H64

- Advertisement -