ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

ลงต่อตามปัจจัยลบต่างประเทศ

ฝ่ ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันพุธปรับลงต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้เป็นอีกวันที่หุ้นไทยอ่อนแอกว่าที่เราคาด โดยหุ้นธนาคารตัวใหญ่เผชิญแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นแรงช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ น่าจะกดดันจิตวิทยาตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย … i) ตลาดหุ้นสหรัฐ ฯ ลดลงค่อนข้างแรง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทั้งตัวอายุสั้นและยาวปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง ด้วยความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่น่าจะยืนสูงนานกว่าที่คาด โดยเมื่อคืนนี้ทั้งประธานธ.กลางสหรัฐฯ และ รมว. คลังสหรัฐฯ แถลงต่อสภาคองเกรสว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (ในระยะสั้น) น่าจะค้างอยู่ที่ระดับสูง ก่อนชะลอตัวในปีหน้า จากปัญหา supply bottle neck และแรงส่งจากการเปิดเมืองเปิดประเทศ ii) ความไม่แน่นอนของประเด็น พรบ.รายจ่ายและกฎหมายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่หลังจาก ส.ส. พรรครีพับลิกันเตรียมโหวตคัดค้านในวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้สหรัฐฯ อาจต้องปิดรัฐบาลชั่วคราว (government shutdown) ในช่วงต้น ต.ค. ทั้งนี้ รมว. คลังสหรัฐฯ ชี้ว่าสหรัฐฯ มีเวลาถึง 18 ต.ค. ที่จะอนุมัติเพิ่มเพดานหนี้ มิเช่นนั้นอาจผิดนัดชำระหนี้… ด้านปัจจัยภายในประเทศเป็นกลาง ในวันนี้ติดตามผลการประชุม กนง.ช่วงบ่าย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดว่า กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% หลังจากมีการออกมาตรการช่วยเหลือและผ่อนคลายเกณฑ์ต่างๆ ไปก่อนหน้านี้แล้ว และเช้าวันนี้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 10,414 ราย เสียชีวิต 122 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 11,580 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร GLOBAL*, SPRC*, KBANK*

  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท)

1) ประเมินแนวรับ 20.4 บาท/แนวต้าน 21.2–21.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 22 บาท (Stop loss 20.2 บาท)

2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q64 = 689 ล้านบาท (+55% YoY, -29% QoQ) โดยคาดว่าอัตราการ เติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) จะยังบวก +10% YoY แต่คาด ชะลอ QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล

3) ผลกระทบจากน้ำท่วมขณะที่ยังจำกัด โดยมีสาขาอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมเพียง 5 แห่ง (รายได้ <5% ของรายได้รวม) ขณะที่เราคาดว่า Demand วัสดุก่อสร้างจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q64 และต่อเนื่องในปี 2565 ทั้งจากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมและการ Renovate รับการเปิดประเทศ

4) Valuation ไม่แพง Forward PE ปี 2565 = 27 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ +/-31เท่า

  • SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท)

1) ประเมินแนวรับ 9.9 บาท / แนวต้าน 10.5 – 10.8 บาท (Trailing stop 9.6 บาท)

2) ประเมิน Sentiment บวกจากทั้ง i) ค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์  โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซล สะท้อนภาพการเดินทาง / ขนส่ง ที่คาดจะฟื้นตัวใน 4Q64 และ ii) ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรง โดย WTI ปรับขึ้น +9% MTD เป็น Sentiment บวกต่อโอกาสกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ 3) Valuation ยังไม่แพง PBV 1.4 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า) ขณะที่คาดค่าการกลั่นพ้นวัฏจักรขาลง กำไรจากการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวเด่นใน 4Q64 ตามค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว

  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท)

1) ประเมินแนวรับ 132 บาท และ 130 บาท/แนวต้าน 136-140 บาท (Stop loss 130 บาท)

2) ประเมินมีโอกาสปลดล๊อค Valuation ในรูปแบบใกล้เคียงกับ SCB* (อาทิเช่น การเตรียมขยายการลงทุนใน Fintech/การเตรียม IPO บ.ลูกเป็นต้น) ขณะที่ Valuation ปัจจุบัน Laggard โดย PBV ต่ำเพียง 0.69 เท่า (SCB* มี PBV 1.01 เท่า)… สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไร SCB* ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะเก็งกำไรในกรอบแนวรับ 125 บาท / แนวต้าน 127 – 130 บาท (Trailing stop 125 บาท)

หุ้นมีข่าว

(0) ธปท.ลุย Debt Consolidation (ไทยโพสต์) นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ช่วงกลางเดือน ต.ค.2564 ธปท.เตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ระหว่างสถาบันการเงินสำหรับสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน กับสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อบัตรเครดิต รวมกับสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ เป็นต้น โดยคาดว่าหากสามารถรวมหนี้สินเชื่อไม่มีหลักประกันกับสินเชื่อที่มีหลักประกันได้ จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลดลงเหลือต่ำกว่า 10%

(+) กลุ่มร้านค้า BGSR เซ็นมอเตอร์เวย์ 2 สายวันนี้ GULF* รับ 2 เด้ง COD 662 เมกะวัตต์ 1ต.ค.64 (ข่าวหุ้น) วันนี้กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR (BTS*-GULF*-STEC*-RATCH*) เซ็นสัญญางาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 สายทางกับกรมทางหลวง (ทล.) มูลค่างานกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท คาดออกหนังสือให้เริ่มงาน NTP พ.ย.นี้ พร้อมให้เอกชนเข้าพื้นที่ ธ.ค.64 ฟาก GULF* รับสองเด้งจ่อ CODโรงไฟฟ้ากัลฟ์ศรีราชา (GSRC) หน่วยผลิตไฟฟ้าที่ 2 กำลังการผลิต 662.5 เมกะวัตต์ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

(+) ประกาศ TOR สายสีม่วงใต้รับเหมาชิงเค้ก 7.8 หมื่นล.(ข่าวหุ้น) หุ้นรับเหมาฯ รชิงเค้กก้อนใหญ่หลัง “รฟม.” สตาร์ตขั้นตอนประมูลสายสีม่วงใต้รอบ 2 ล่าสุดประกาศร่าง TOR งานโยธา เพื่อรับฟังความคิดเห็นแล้ว แยกงานเป็น 6 สัญญา มูลค่ารวม 7.87 หมื่นนล้านบาท

(+) FORTH เขี่ยการบินไทยพ้นศูนย์ซ่อมฯ ดอนเมือง (ข่าวหุ้น) AOT* ร่วมทุน FORTH ตั้งบริษัทร่วมทุน “FORTHMRO” ลุยโรงซ่อมเครื่องบินพื้นที่คลังสินค้า 3 สนามบินดอนเมือง ลุยก่อสร้างปลายปีนี้ คาดเปิดดำเนินการไตรมาส 3 ปีหน้า ฟาก “นิตินัย” ยันไม่ได้บีบ THAI ออกจากพื้นที่ศูนย์ซ่อมสนามบินดอนเมือง แต่จำเป็นต้องส่งหนังสือแจ้งเตือน หตุ THAI ไม่ยอมต่อสัญญา และไม่ชำระค่าตอบแทนมาตั้งแต่ปี 55 กระทบ AOT* ต้องจ่ายผลตอบแทน 3,800 ล้านบาท ให้กรมธนารักษ์แทน

(+) เปิดโผหุ้นปลอดภัยน้ำท่วม DOHOME* ซ่อมบ้านดันยอด (ทันหุ้น) หุ้นเด่นปลอดภัยจากน้ำท่วม ชูกลุ่มโรงพยาบาล ค้าปลีก ซ่อมแซมบ้าน รับอานิสงส์ ด้าน DOHOME* ระบุสาขาของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เผยยอดขาย SSSG ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 20% รักษามาร์จิ้นระดับที่สูง เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง กางแผนปีหน้าเปิดอีก 5 สาขา เร่งผลักดันสินค้า House Brand ขณะที่ยอดขายออนไลน์เติบโตดี มองภาพรวมธุรกิจฟื้นตัว

(-) GFPT, CPF*, TFG) โควิดถล่ม ไก่เนื้อทะลักตลาด วันส่งออกวืดเป้า 9 แสนตัน (ประชาชาติธุรกิจ) หวั่นส่งออกไก่ปีนี้วืดเป้าไปไม่ถึง 950,000 ตัน หลังลงเชือดยักษ์ใหญ่ถูกโควิด-19 ถล่ม คนงานติดเชื้อระนาวส่งผล 8 โรงงานส่งออกเฉพาะเดือนสิงหาคม ยอดส่งออกหด 20% ต้องนำไก่ไปเก็บไว้จนล้นห้องเย็นทั่วประเทศ กระทบไปถึงฟาร์ม-เกษตรผู้เลี้ยงรายย่อย ราคาเนื้อไก่ยันโครงไก่ดิ่งลงเหว ซ้ำถูกรายใหญ่เทขายไก่ดัมพ์ราคาหนีตาย จนราคาขายเหลือ กก. 20-24 บาท สวนทางต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งพรวด

(-) ผู้บริหาร AOT* เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทอาจเผชิญกับการขาดทุนต่อเนื่องในปี 2565 (ต.ค.64-ก.ย.65) เนื่องจากมีการคืน slot เที่ยวบินฤดูหนาว (ต.ค.64-มี.ค.65) ของสายการบินต่างประเทศ 79% และสายการบินในประเทศ 42% ในช่วงที่ผ่านมา (Infoquest) เรามองว่าผลประกอบการของ AOT ในปี 2565 (ต.ค.64-ก.ย.65) จะขึ้นอยู่กับการเปิดประเทศของไทยเป็นหลัก หากพิจารณาจากเป้าหมายของรัฐบาล การเปิดประเทศบางส่วนจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วง 4Q64 หลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ของไทยเริ่มมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดประเทศบางส่วนตั้งแต่กลาง 4Q64 มากขึ้น ทั้งนี้เราไม่ได้กังวลต่อการคืน slot ของสายการบิน เนื่องจากสายการบินจะกลับมาขอ slot คืนได้เมื่อสถานการณ์ฟื้นตัวขึ้น แต่ระยะสั้น AOT จะเผชิญกับการขาดทุนสุทธิก่อนที่จะพลิกฟื้นขึ้นในอีกสองสามปีข้างหน้านับจากปี 2565 เรายังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี FY65 ไว้เท่ากับ 74.50 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำไว้ก่อนหน้า

  • BAM* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 18.5 บาท/แนวต้าน 19.3–19.6 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.5 บาท)
  • SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.8 บาท/แนวต้าน 10.4–10.7 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 9.4 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.7 – 23.7 บาท (Trailing stop 21 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) แนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.6 บาท (Trailing stop 6.0 บาท)
  • ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 194 บาท/แนวต้าน 200-205 บาท (Stop loss 190 บาท)
  • SAAM (เป้าพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.8 บาท/แนวต้าน 6.2-6.5 บาท (Stop loss 5.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • GLOBAL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 27 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 689 ล้านบาท (+51% YoY, -29% QoQ) โดยคาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) ในในไตรมาสนี้บวก +10% YoY แต่การชะลอตัวลงแบบ QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2564 – 65 ขึ้น 7% และ 5% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานเรื่องสินค้า Housebrand
  • DOHOME* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 34 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 480 ล้านบาท (+156% YoY, -20% QoQ) โดยคาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) ในในไตรมาสนี้บวก +12% YoY แต่การชะลอตัวลงแบบ QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2564 – 65 ขึ้นเฉลี่ยปีละ +8%
  • HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 15 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 1.1 พันล้านบาท (-20% YoY, -22% QoQ) โดยคาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) จะติดลบ -7%YoY ในไตรมาสนี้ เป็นผลกระทบจากมาตรการล๊อคดาวน์ที่ทำให้มีการปิดสาขาชั่วคราวไปหลายแห่ง อย่างไรก็ดี คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวได้ใน 4Q64 และประเมิน Downside จำกัด จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -