สรุปภาวะตลาด

วันพุธท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวท้ังแดนบวกและลบ โดยในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ อย่างสหรัฐ จาก Bond Yield ที่เพิ่มสูงข้ึน จากเงินเฟ้อที่เพิ่มข้ึน ส่วนในภาคบ่าย หลังจากมีการประชุมกนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับปรับประมาณการณ์ GDP ปี 65 ข้ึนเล็กน้อยเป็นขยายตัว 3.9% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,616.98 จุด +0.48 จุด +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 93,120 ลบ. ต่างชาติ +1,111.97 ลบ. TFEX +11,845 สัญญา ตราสารหน้ี -302.38 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 90.73 จุด +0.26% จากแรงซื้อหุ้นท่ีปลอดภัย และสามารถต้านทานวัฎจักรทาง เศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มสินค้าผู้บริโภค แต่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

+ “เมอร์ค” บริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐเผย “โมลนูพิรา เวียร์” (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรค โควิด-19 มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

+สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ในเดือนส.ค. สูงสุดรอบ 7 เดือนดัชนี +8.1%MoM สูงกว่าท่ีนักวิเคราะห์คาดการณ์ท่ีระดับ 1.4%

+บอร์ดกนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ตามตลาดคาด และยังคงคาดการณ์ GDP ปี 64 โต 0.7% แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนปี 65 คาด GDP โต 3.9%

+ก.คลัง เปิดให้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 และโครงการย่ิงใช้ยิ่งได้ผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ตั้งแต่ 4 ต.ค.เป็นต้นไป อวดยอดใช้จ่ายคนละครึ่งพุ่ง 6.74 หมื่นล้านบาท

+ก.คลังเปิดเผยว่ารัฐบาลจะออกมาตรการเสริมเพื่อกระตุ้น และสนับสนุนการใช้จ่ายให้ภาคประชาชน และช่วยเหลือธุรกิจ SME

ปัจจัยลบ

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 46 เซนต์ -0.6% ปิดท่ี 74.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับท่ีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง

-วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันยังคงเดินหน้าขัดขวางร่างกม. งบประมาณชั่วคราว และการเพิ่มเพดานหน้ีที่นำเสนอโดยคณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน แม้สหรัฐเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากงบประมาณฯของรัฐบาลกลางสหรัฐจะหมดอายุ 30 ก.ย. และรัฐบาลมีกำหนดต้องจ่ายหน้ีดอกเบี้ยพันธบัตร 18 ต.ค.น้ี

-สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 1.1% ผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และสต็อกบ้านท่ีตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น

– ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปผิดนัดชำระหนี้เป็นคร้ังที่ 2 วงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยของหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ท่ีจะครบกาหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค.2567

– ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งในสิงค์โปร์ ได้แก่ DBS Group Holdings, Oversea-Chinese Banking Corp และ United Overseas Bank ชี้แจงการลงทุนในหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์กรุ๊ป

-สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค. หดตัว 4.15%YoY 8M64 MPI +7.13% สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแรงงานในสถานประกอบการ เร่ิมส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวม

-ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ เพิ่มข้ึนจากวานน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,646 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK 3,326 ราย เสียชีวิต 107 ราย

-สถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมน่าเป็นห่วง ต้องเฝ้าระวังแม่น้ำสายหลัก – อ่างเก็บน้ำ 12 แห่ง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีรีบาวด์ต่อเนื่องตามตลาดในภูมิภาคที่ปรับตัวลงขึ้น จากความคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะขยายเพดานหน้ีสหรัฐไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. 64 และ กนง. คงอัตราดอกเบี้ย และคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเป็นปัจจัยหนุน เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1,605-1,625 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย : AOT MINT ERW CENTEL ASAP
• ค่าการกลั่นปรับตัวข้ึนเป็นบวกต่อ : TOP SPRC PTTGC
• ศบค. ผ่อนคลายเปิดโรงหนัง-ปรับเวลาเคอร์ฟิว-เวลาเปิดร้านอาหาร : MAJOR AU ZEN M CPALL

หุ้นรายงานพิเศษ

บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE)
(ราคา IPO 2.40 บาท) “กรอบราคาเหมาะสม 2.8-3.5 บาท”

  • เป็นผู้ผลิตและจําหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมันสําปะหลังแบบครบวงจร ประกอบธุรกิจหลักได้แก่ 1) ธุรกิจเอทานอล ผลิต และจําหน่ายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง และเกรดอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ด้วยกําลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ร้อยละ 66.9) 2) ธุรกิจแป้งมันสําปะหลังเกรดอาหาร และเกรดอุตสาหกรรม ทั้งแบบทั่วไปและออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ “อุบลซันฟลาวเวอร์” และมีผลิตภัณฑ์จากแป้งฟลาวมันสําปะหลัง ภายใต้แบรนด์ “Tasuko” (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ร้อยละ 27.9) และ 3) ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชออร์แกนิค เช่น ข้าว กาแฟ (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ร้อยละ 5.2)
  • ช่วงปี 61-63 บริษัทมีรายได้จากการขาย 4,796 ลบ. 4,690 ลบ. และ 4,435 ลบ. สาเหตุท่ีรายได้ในปี 62 ลดลง เกิดจากการที่ในปีดังกล่าว บริษัทไม่มีการจําหน่ายมันเส้นส่วนเกินจากกระบวนการผลิต ส่วนในปี 63 รายได้ที่ลดลง เกิดจากรายได้ในส่วนของธุรกิจแป้งมันสําปะหลัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID- 19 ประกอบกับปัญหาการส่งออกไปประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่งผลให้บริษัทมีกําไร (ขาดทุน) สุทธิในปี 61–63 จํานวน 67.2 ลบ. (42.5) ลบ. และ 99.3 ลบ. ตามลําดับ ในปี 62 ท่ีมีผลขาดทุนเกิดจากการบันทึกรายการพิเศษที่เป็นส่วนช่วง 1H64 บริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 2,946.1 ลบ. +40%YoY จากที่มีการค้างการส่งมอบ จึงเลื่อนมาส่งมอบในงวดนี้ จํานวน 201.1 ล้านบาท ส่งผลให้ 1H64 บริษัทมีกําไรสุทธิ 106.6 ลบ. +48.7%YoY
  • ราคา IPO 2.40 บาท คิดเป็น Trailing PE = 69.97x เทียบกับกําไรสุทธิที่ 0.03 บาทต่อหุ้น (P/E ของกลุ่ม พลังงานและสาธารณูปโภคที่ 16.84x) จํานวน IPO 1,370 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,288 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เป็นเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจปัจจุบัน 2) เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดําเนินธุรกิจ

หุ้นมีข่าว

(+) TACC (ราคาเหมาะสม 8.60 บาท) TACC ครึ่งปีหลังคลายล็อกหนุนธุรกิจฟื้นตัว เดินหน้าออกโปรดักต์ใหม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมรุกตลาดเดลิเวอรี่มากขึ้น และขยายกลุ่ม Cafe Business เพิ่มช่องทำเงิน กางแผนขยายตลาดต่างประเทศ กัมพูชา ลาว และอาเซียน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AKR (Bloomberg Consensus 1.18 บาท) ชี้ถึงเวลางานประมูลเพียบ หลังรัฐคลายล็อก เดินหน้างานตามปกติ เข้าชิงเค้กหม้อแปลงจาก กฟภ.-กฟน. กว่า 3,000 ล้านบาท คาดได้รับไม่ต่ำกว่า 10% เข้าสู่ฤดูงบปี 2565 เตรียมรับงานติดต้ังแผงโซลาร์จากภาครัฐเพียบ เชื่อมีโครงการลงทุนใหม่อีกมาก แบ็กล็อกในมือหนา 300-400 ล้านบาท เร่งส่งมอบไตรมาส 4 นี้ ดันงบสุดพีค (ที่มา ทัน หุ้น)

(+) BTS (Bloomberg Consensus 12.20 บาท) “บีทีเอส” พึ่งศาลปกครอง ฟ้องแล้ว กทม.-KT ให้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 รวมกว่า 12,000 ล้านบาท ล่าสุดศาลรับคำฟ้อง อยู่ระหว่างให้ผู้ถูกฟ้องทำคำชี้แจงเพิ่มเติม BTS ลุยต่อจ่อฟ้องให้ชาระหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถอีก กว่า 20,000 ล้านบาท เร็วๆ นี้ (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

(+) SC (Bloomberg Consensus 3.65 บาท) “เอสซี” แย้มผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก หลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊ก 8,557 ล้านบาท ดันรายได้ปีนี้ตามเป้า 19,000 ล้านบาท เตรียมเปิดใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 11,400 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง หนุนยอดขายปีนี้ 20,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าว หุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย จัดสัมมนาวิชาการประจำปี (BOT Symposium 2021)

1 พ.ย.ศบค. เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเพิ่ม 10 จังหวัด รวม กทม.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

30 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต -ภาคบริการเดือน ก.ย. สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย.จากไฉซิน

อียูเปิดเผยอัตราการว่างงานเดือนส.ค.

สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP 2Q64

สภาผู้แทนราษฎรฯจะลงมติเพื่อผ่านร่างกฎหมาย การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์

4 ต.ค. การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัส

2-3 พ.ย.สหรัฐประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)

- Advertisement -