บล.คันทรี่ กรุ๊ป:

บมจ. ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) “ยังมีช่องทางให้ขยายอีกมาก”

ยังมีช่องให้เติบโตได้อีก

ที่ผ่านมา TACC เน้นการเติบโตไปพร้อมกับการขยายของทาง CPALL มาโดยตลอด ทำให้ปัจจุบันที่ CPALL เข้าไปร่วมบริหาร Lotus ที่มีห้างในมือกว่า 2,100 สาขา (ทั้งไทยและมาเลเซีย) จึงเป็นโอกาสท่ีดีสำหรับ TACC ในการเข้าไปต้ังตู้กดน้ำตามศูนย์อาหาร หรือการขายวัตถุดิบให้กับร้าน Jungle café ท่ีจะทยอยเปิดตาม Lotus’s Go fresh ได้อีกทาง โดยปัจจุบันเริ่มขายในศูนย์อาหารของ Lotus แล้ว 17 สาขา จาก 219 สาขาในไทย ส่วน Go Fresh มีขายแล้ว 1,100 สาขา จากทั้งหมด 1,600 สาขา นอกจากนี้แล้วทาง TACC เตรียมนำเครื่องดื่มไป ขายใน IKEA เพิ่มอีกแห่งด้วย ส่วนในต่างประเทศมีการนำเครื่องดื่มไปขายพร้อมกับการเปิดสาขาของ CPALL ในประเทศกัมพูชาด้วยเช่นกัน ซึ่งในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศนอกเหนือจากไปร่วมกับทาง CPALL แล้ว ยังจะมีการขยายในส่วนของเครื่องดื่มตัวเอง อย่าง ณ อรุณ และธุรกิจลิขสิทธ์ิตัวละครที่มีอยู่โดยเฉพาะ San-X โดยเฉพาะตลาดสงิค์โปร์ และเวียดนาม คาดว่าในปีหน้าจะกลับไปทำการตลาดเพิ่มอีกครั้ง หลังจากปีนี้ต้องชะลอไปเนื่องจากการระบาดของโควิดท่ียังรุนแรงอยู่ในท้ังสองประเทศ

3Q21 มีผลกระทบจากโควิด

แนวโน้มช่วง 3Q21 เบื้องต้นอาจจะไม่เห็นการเติบโตของรายได้มากนัก เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิดของทางภาครัฐ โดยเฉพาะการให้ร้านค้าเปิดร้านได้ถึงเวลา 20 นาฬิกาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยบริการจัดส่งของทาง CPALL ที่มีการขยายมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องดื่มของ TACC มียอดขายเข้ามาชดเชยผลดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าหลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายเงื่อนไขการควบคุมโควิดที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.โดยเฉพาะการปรับเวลาเคอร์ฟิวไปเป็น 22 นาฬิกา ทำห้ระยะเวลาในการขายสินค้าของ TACC มีเพิ่มขึ้น เราจึงมองว่าผลประกอบการงวด 4Q21 จะเห็นการฟื้นตัวได้ ท้ังนี้เราจะรอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทอีกคร้ัง

ปีน้ีไม่หวือหวา แต่ปีหน้าถ้าฟ้าเปิดลุยเต็มท่ี

แม้ว่าปีนี้จะได้รับผลกระทบจากโควิดอยู่ แต่ด้วยการรับรู้รายได้จากแก้วขนาด 22 ออนซ์เต็มปี และการขยายไปยัง Lotus เพิ่มทาให้ผลประกอบการท้ังปียังเห็นการเติบโตได้ โดยเราคาดรายได้อยู่ท่ี 1,417ลบ.(+8%YoY) และคาดกำไรสุทธิ 205 ลบ. (+9%YoY) ส่วนปี 22 หากไม่มีปัญหาโควิดกลับมาอีก เราคาดว่าผลประกอบการจะขยายตัว ได้อย่างต่อเนื่อง จากการขยายไปยังร้านใหม่ๆข้างต้น โดยคาดรายได้อยู่ท่ี 1,556 ลบ. (+10%YoY) และกำไรสุทธิ 225 ลบ. (+10%YoY) รวมแล้วด้วยการที่ยังมีช่องทางให้ขยายการขายได้อีกมาก เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เช่นเดิม และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 8.45 บาท (25XPER’21E)

- Advertisement -