ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ : 19838)
แกว่งลงต่อ ลุ้นรีบาวด์แถว 1,600 จุด ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งตัวลงต่อ มีโอกาสรีบาวด์จากระดับสำคัญทางจิตวิทยา 1,600 จุด หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าที่คาด เผชิญแรงขายหุ้นตัวหลักๆ เกือบทุกกลุ่ม ปิดไตรมาสที่ 3/2564 ส่วนในวันนี้ปัจจัยต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นลบเล็กน้อย หลักๆ จากฝั่งต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงค่อนข้างแรง รับตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.62 แสนคน (consensus คาด 3.35 แสนคน) ขณะที่ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐฯยังคงอยู่ แม้ว่าเมื่อคืนนี้สภาคองเกรสได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวไปถึงวันที่ 3 ธ.ค. และสามารถเลี่ยงการปิดรัฐบาลได้แล้วก็ตาม ขณะที่ในวันนี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ต้องติดตาม ได้แก่ เงินเฟ้อ Core PCE เดือน ส.ค. ซึ่ง consensus มองไว้ที่ 3.6% YoY เท่ากับในเดือน ก.ค. รวมทั้งตัวเลข ISM ภาคการผลิตในเดือน ก.ย. ด้านปัจจัยภายในประเทศ ธปท. รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ส.ค. อ่อนแอตามการล็อกดาวน์ทั้งเดือน (ตามคาด) และ ธปท. กำลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่าจะมีผลกระทบเพียงใดต่อเศรษฐกิจ และเช้าวันนี้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 11,754 รายเสียชีวิต 123 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 12,473 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน: 28868)
เก็งกำไร IVL*, SIMAT, GLOBAL*
- IVL* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 44 บาท และ 43 บาท / แนวต้าน 46.5-47.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 50 บาท (Stop loss 42.5 บาท) 2) จากสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าที่ประเทศจีน ทำให้รัฐบาลจีนสั่งลดกำลังการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมฯ ลงเฉลี่ย 30% ทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ก.ย. โดยเฉพาะโรงงานปิโตรเคมีฝ่ายวิจัยฯ บล. เคจีไอ (ไต้หวัน) ประเมินว่าจะส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีที่มีฐานการผลิตใหญ่ที่จีนปรับขึ้นโดยเฉพาะ PTA-PET (ผลิตภัณฑ์หลักของ IVL*) ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าที่จีนจะกลับมารุนแรงอีกครั้งในเดือน ธ.ค. … ทั้งนี้จากประเด็นนโยบายด้านพลังงานของจีนทั้งระยะสั้นและระยะยาว คาดมีโอกาสที่จะเกิดการย้ายฐานการผลิต เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคมฯ (AMATA*, WHA*) และการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเป็นบวกหุ้นที่ทำ Energy storage (GPSC*, BCPG*, BANPU*)
- SIMAT (เป้าพื้นฐาน 8.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.2 บาท / แนวต้าน 5.6-5.8 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.2 บาท (Stop loss 5 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานลงมา และเริ่มสร้างฐานใหม่ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q64 ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQYoY จากการปรับโครงสร้างองค์กรลดต้นทุน SG&A, ธุรกิจ Silk Screen เข้า High Season การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า 3) ประเมิน Forward PE = 23.9 เท่ายังไม่แพงเมื่อพิจารณาการ Turnaround ของผลการดำเนินงาน และ Catalysts บวกที่รออยู่ เช่น การเตรียมจ่ายปันผลได้ครั้งแรกในรอบหลายปี, การ IPO บ. ลูก … โดยล่าสุด SIMAT ทำการขายหุ้นบ.ฮินชิสึ 10% ให้กับ OTO คาดเป็นการเตรียมปรับโครงสร้างการถือหุ้น เตรียมความพร้อมยื่นไฟลิ่ง และคาดจะบันทึกกำไรพิเศษจากการหุ้นใน 3Q64
- GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.7 บาท / แนวต้าน 21.5-22 บาท (Stop loss 20.4 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 3Q64 = 689 ล้านบาท (+55% YoY, -29% QoQ) โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) จะยังบวก +10% YoY แต่คาดชะลอ QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล 3) ผลกระทบจากน้ำท่วมขณะที่ยังจำกัด โดยมีสาขาที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมเพียง 5 แห่ง (รายได้ 5% ของรายได้รวม) ขณะที่เราคาดว่า Demand วัสดุก่อสร้างจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q64 และต่อเนื่องในปี 2565 ทั้งจากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม และการ Renovate รับการเปิดประเทศ 4) Valuation ไม่แพง Forward PE ปี 2565 +/- 27 เท่า ยังต่ำกว่าเฉลี่ยในอดีตที่ +/- 31 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) SFLEX ผนึก TU ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยบรรจุภัณฑ์ (กรุงเทพธุรกิจ) “สตาร์เฟล็กซ์” จับมือ “ไทยยูเนี่ยนกราฟฟิกส์” ตั้งบริษัทร่วมทุนก่อสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน หนุนการใช้ในกลุ่ม “ไทยยูเนี่ยน” ตั้งเป้ารายได้ปี 67 แตะ 1.5 พันล้าน
(+กลุ่มค้าปลีก) คลังจัดแพ็คใหญ่กระตุ้นศก. ช้อปดีมีคืน-เพิ่มเงินคนละครึ่งรับเทศกาลปีใหม่ (ข่าวหุ้น)“ อาคม” เตรียมจัดชุดใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง เพิ่มวงเงินอีกรับเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน พร้อมปฏิเสธขึ้นภาษีบุหรี่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลถังแตก
(-OR”, PTG”) พลังงานลั่นคุมราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท (ไทยโพสต์) พลังงานลั่นพร้อมใช้กองทุนน้ำมันเข้าดูแลหากราคาดีเซลทะลุ 30 บาท หลังประเมินสถานการณ์ความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้น และโอเปกควบคุมการผลิตหวังไม่ให้กระทบต่อประชาชน
(+) MAJOR* คัมแบ็กโรงหนังจัดหนักฉายฟอร์มยักษ์ (ทันหุ้น) คอหนังเฮ! MAJOR* เปิดบริการทุกโรงภาพยนตร์วันนี้ ดันหนัง 30 เรื่องเข้าฉายต่อเดือน หนังฟอร์มใหญ่ทำเงินเพียบ คาดฟันรายได้เดือนละ 600 ล้านบาทใกล้เคียงก่อนโควิด เปิดแผนรุกหัวเมืองรองจับมือบิ๊กซีโลตัสเล็งสร้างหนังไทย 15-20 เรื่อง รับสองเด้งฉายเองขายสิทธิให้กับ Netfix โบรกคาดไตรมาส 4 ฟื้นตัวลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ
(+) CPN* ปูพรมห้างทั่วไทยเปิดสาขาโกยรายได้โต (ทันหุ้น) CPN* มั่นใจเปิดศูนย์การค้า 2 ศูนย์ในไตรมาส 4/2564 และเปิดเซ็นทรัลจันทบุรีไตรมาส 1/2565 พันธมิตรต่อคิวเปิดร้านทุกศูนย์มั่นใจไตรมาส 412564 ทราฟฟิกสูงกว่า 80% ชูกลยุทธ์ “มิกซ์ยูส” ในพื้นที่มีทั้งโรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, ที่อยู่อาศัยอาคารสำนักงานหวังเป็น ศูนย์กลางของชุมชนเมือง อัดงบ 1 พันล้านบาท พัฒนาแพลตฟอร์ม “เดอะวันบิช” กระตุ้นกำลังซื้อเจนวาย
(+) SE การันตีรายได้ปีนี้โต 20% เตรียมส่ง UBA เข้าตลาดหุ้น (ข่าวหุ้น) SE คาดผลงานครึ่งปีหลังโตรุกโปรดักส์โควิด -19 ฟากธุรกิจเดิมออเดอร์แน่น เตรียมบุกงบ บ.ย่อย KESSEL มั่นใจดันผลงานทั้งปี 64 รายได้โต 15-20% พร้อมเล็งส่ง UBA เข้าตลาดหุ้น
(+) BROOK ลุยสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมลงทุนเครื่องขุดคริปโทฯ (ข่าวหุ้น) นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายที่ปรึกษาวานิชธนกิจ และกรรมการผู้จัดการฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุคเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบ่งเป็น 2 ส่วน
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.8 บาท / แนวต้าน 10.1-10.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 9.5 บาท)
- MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.4 – 23.0 บาท (Trailing stop 21 บาท)
- PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) แนวรับ 6.1 บาท / แนวต้าน 6.4-6.6 บาท (Trailing stop 6.0 บาท)
- SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) แนวรับ 9.75 บาท / แนวต้าน 10.5-10.8 บาท (Trailing stop 9.6 บาท)
- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 133 บาท / แนวต้าน 140-142 บาท (Trailing stop 130 บาท)
- ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 194 บาท / แนวต้าน 197.5-200 บาท (Stop loss 192 บาท)
- SAAM (เป็นพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.1-6.2 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PTG* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q64 = 256 ล้านบาท (-50%YoY, -49%QoQ) โดยผลการดำเนินงานที่คาดชะลอตัวลงในไตรมาสนี้ เป็นผลจากมาตรการล็อคดาวน์ที่ทำให้ปริมาณขายน้ำมันลดลง อย่างไรก็ดี คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวได้ใน 4Q54 หลังการปรับมาตรการล็อคดาวน์ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ
