บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
SCCC คาดกำไร 3Q21 จะเป็นจุดต่ำสุด
เราคาดว่ากำไรหลักของบริษัทจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในเจ็ดไตรมาสใน 3Q21 จะฟื้นตัวตั้งแต่ใน 4Q21 เป็นต้นไป

  • เราคาดก่าไรปกติของบริษัทใน 3Q21 ที่ 663 ล้านบาท (-26%YoY,-14%QoQ) ตามยอดขายที่ลดลง และต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่เป็นจุดต่ำที่สุด
  • คาดกำไรจะฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้นไป ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการก่อสร้าง และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ รวมถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นในตลาดอาเซียนหลังการคลายล็อกดาวน์
  • รายได้ส่วนได้เสียจากธุรกิจในกัมพูชาจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2022-23
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้น 8% เป็น 207 บาท อิง 14.7xPE’22E ซึ่งเป็นระดับก่อนเกิดโควิด สะท้อนถึงแนวโน้มเชิงบวกของอุปสงค์ปูนซีเมนต์ฟี้นตัวหลังวิกฤติโควิด ท้ังในตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก และการได้ประโยชน์จากการกระจายธุรกิจไปสู่ตลาดเอเชียที่มีแนวโน้มเติบโตสูง

ใน 3Q21 คาดเป็นจุดต่ำสุด

  • เราคาดว่ากำไรหลักใน 3Q21 จะอยู่ที่ 663 ล้านบาท (-26%YoY, -14%QoQ) ด้วยผลกระทบจากการหยุดการก่อสร้างในปลาย 2Q21 จากการล็อกดาวน์
  • เราคาดว่ารายได้ของบริษัทจะยังคงทรงตัวท่ี 1 หมื่นล้านบาท (-3%YoY, +1%QoQ) จากความต้องการลูกค้า กลุ่มพาณิชย์ที่อ่อนแอ
  • เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงสู่ระดับต่ำท่ีสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 28.2% จากต้นทุนพลังงานท่ีสูงขึ้น และ การประหยัดต่อขนาดท่ีลดลง

ฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้นไป

  • เราคาดว่ากำไรของบริษัทใน 4Q21 จะฟื้นตัวเป็น 958 ล้านบาท (ทรงตัว YoY, +44%QoQ) ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในทุกภาคส่วน ด้วยราคาปูนซีเมนต์ที่ทรงตัวทั้งในตลาดภายในและภายนอกประเทศ
  • นอกจากนี้เราคาดว่าการคลายล็อกดาวน์ในภูมิภาคต่างๆในต้นปีหน้าจะช่วยหนุนยอดขายให้แข็งแกร่ง ตั้งแต่ใน 4Q21 เป็นต้นไป
SCCC แนวโน้มที่สดใสในปี 2022-23

ปริมาณขายในประเทศกลับมาเติบโตในปี 2022

  • เราคาดว่าผลกระทบเชิงลบใน 1H21 ต่อภาคการก่อสรา้งและโครงสร้างพื้นฐาน (คิดเป็น40% ของอุปสงค์ในประเทศ) จะฟื้นตัวกลับมาในช่วงปลายปีนี้ ด้วยแรงหนุนจากการเปิดไซต์ก่อสร้าง และการฟื้นตัวของตลาดบ้านท่ีอยู่อาศัย
  • รัฐบาลจะเร่งกระบวนการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลังจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ และนำไปสู่ความต้องการท่ีเพิ่มขึ้นในปีหน้า
  • นอกจากนี้เรายังคาดว่าราคาปูนซีเมนต์จะทรงตัวท่ี 1,700 บาทต่อตัน จากอุปสงค์ในประเทศท่ีเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ ในขณะท่ีอุปทานยังมีอยู่เพียงพอ

กิจการร่วมค้าในประเทศกัมพูชาจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต 3 ปีข้างหน้า

  • เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจร่วมในกัมพูชาจะเติบโตท่ีเฉลี่ย 9% ต่อปี ในช่วง 2021-23E และคิดเป็น สัดส่วน 26% ของกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2023E โดยธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ในกัมพูชาจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานท่ีได้รับแรงหนุนจากการลงทุนโดยตรงจากจีน
  • จากข้อมูลของพนมเปญโพสต์ จีนมีแผนจะลงทุน 440 ล้านดอลลาร์ในโครงการใหม่ 87 โครงการในกัมพูชา ซึ่งเราเช่ือว่าจะเป็นส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ราคาปูนซีเมนต์ และหนุนให้ความต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านตัน
- Advertisement -