ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ : 19838)

ฟื้นตัวตามปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวกมากขึ้น

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับตัวขึ้น แต่ยังอยู่ในช่วงผันผวนสูง … หลังจากเมื่อวันศุกร์ดัชนีฯ ประคองตัวได้ เทรดอยู่ในกรอบแคบๆ (ตามคาด) … สำหรับในวันนี้ ปัจจัยแวดล้อมต่างๆเป็นบวกมากขึ้นพอสมควร ในฝั่งต่างประเทศตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นค่อนข้างแรงเมื่อคืนวันศุกร์ ตอบรับข่าวบวกเรื่องยารักษา COVID-19 ตัวใหม่ Mulnopiravir ที่ผลการทดลองออกมาค่อนข้างดี ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจ ISM ภาคการผลิต ก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ 61.1 สูงกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 59.6 ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE เดือน ส.ค. ออกมาเท่ากับที่ consensus คาด คือเพิ่มขึ้น 3.6% YoY … ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯปรับลดลงเมื่อวันศุกร์สะท้อนว่าตลาดรับรู้ประเด็นเงินเฟ้อ และแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯไปค่อนข้างมากแล้ว ด้านปัจจัยภายในประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับ น.ร. เด็กโตในวันนี้ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายสำคัญ 2 อย่างในเดือน พ.ย. ได้แก่ การเปิด ร.ร. รวมทั้งการเปิดกรุงเทพฯให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่เช้าวันนี้สบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 9,930 ราย เสียชีวิต 97 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 12,336 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน: 28668)

เก็งกำไร BTS*, IVL*, SIMAT

  • BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.4 บาท / แนวต้าน 9.6 – 9.85 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 10.3 บาท (Stop loss 9.2 บาท) 2) ประเมินธุรกิจหลักรับ Sentiment บวกจากการเตรียมเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศภายใน 4Q64 คาดจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าในระบบฯ ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว 3) ประเมิน Catalyst บวกอื่น ๆ i) ราคาหุ้น Laggard หุ้นที่ไปลงทุนไว้ อาทิ การลงทุนในกลุ่ม JMART เป็นต้น และ ii) คาดพันธมิตร BGSR (BTS*, GULF*, STEC*, RATCH*) ยังเดินหน้าประมูลงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายโครงการ
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 43 บาท / แนวต้าน 46.5 – 47.5 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป สถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าที่ประเทศจีน +/- 50 บาท (Stop loss 42.5 บาท) 2) จากทำให้รัฐบาลจีนสั่งลดกำลังการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมฯ ลงเฉลี่ย 30% ทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ก.ย. โดยเฉพาะโรงงานปิโตรเคมีฝ่ายวิจัยฯ บล. เคจีไอ (ไต้หวัน) ประเมินว่าจะส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีที่มีฐานการผลิตใหญ่ที่จีนปรับขึ้น โดยเฉพาะ PTA-PET (ผลิตภัณฑ์หลักของ IVL*) ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าที่จีนจะกลับมารุนแรงอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้จากประเด็นนโยบายด้านพลังงานของจีนทั้งระยะสั้นและระยะยาว คาดมีโอกาสที่จะเกิดการย้ายฐานการผลิตเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคมฯ (AMATA*, WHA*) และการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเป็นบวกหุ้นที่ทำ Energy storage (GPSC*, BCPG*, BANPU*)
  • SIMAT (เป้าพื้นฐาน 8.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.15 บาท / แนวต้าน 5.5 – 5.8 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.2 บาท (Stop loss 5 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานลงมา และเริ่มสร้างฐานใหม่ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q64 ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ YoY จากการปรับโครงสร้างองค์กรลดต้นทุน SG&A ธุรกิจ Silk screen เข้า High season การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า 3) ประเมิน Forward PE = 23.4 เท่า ยังไม่แพงเมื่อพิจารณาการ Turnaround ของผลการดำเนินงาน และ Catalysts บวกที่รออยู่ เช่น การเตรียมจ่ายปันผลได้ครั้งแรกในรอบหลายปี, การ IPO บ. ลูก … โดยล่าสุด SIMAT ทำการขายหุ้นบ. ฮินสี 10% ให้กับ OTO คาดเป็นการเตรียมปรับโครงสร้างการถือหุ้น เตรียมความพร้อมยื่นไฟลิ่งและคาดจะบันทึกทําไรพิเศษจากการหุ้นใน 3Q64

หุ้นมีข่าว

(+) CPF* จัดหมื่นล. ซื้อหุ้นคืน CPP พ้นจากตลาดฮ่องกง (ทันหุ้น) CPF* เดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท จำนวนหุ้น 400 ล้านหุ้น หรือ 4.65% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เพื่อบริหารทางการเงินโดยจะซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 14 เมษายน 2555 พร้อมเผยนำ CPP ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง: HKEX

(+) GULF* ผนึกกลุ่มสิงเทลบุกอินฟราดิจิทัลโลก! (ข่าวหุ้น) “กัลฟ์ฯ” จับมือ “สิงเทล” ร่วมลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ระดับอินเตอร์ หลังทิศทางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลโลกเติบโตก้าวกระโดด คาดแผนลงทุนชัดเจนภายในปี 65 ขณะที่แผน COD โรงไฟฟ้า PP กำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ยังเป็นไปตามเป้า คาดหลังโรงไฟฟ้า GSRC เดินครบ 2,650 เมกะวัตต์สร้างรายได้ 4 พันล้านบาทต่อปี

(+) ทอท. ลุยประมูลพื้นที่รอบสนามบิน (ไทยโพสต์) คลังเคาะขยายเวลาเช่าพื้นที่รอบสนามบิน 30 ปี ทอท. พร้อมเปิดทางให้เอกชนเข้าร่วมบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ เตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับกว่า 1,985 ล้านบาท

(+) AAV บินเพิ่ม 9 เส้นทางต.ค. นี้รับรัฐคลายล็อกดาวน์โควิดระบาดลดลง (ข่าวหุ้น) “เอเชีย เอวิเอชั่น” ดี๊ด๊าปรับตารางบินเดือนตุลาคม 64 บินเพิ่มอีก 9 เส้นทาง รวมให้บริการเป็น 20 เส้นทางโชว์ Load Factor ผู้โดยสารเดือนกันยายนเฉลี่ย 75-80% เส้นทางยอดนิยม เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ผู้โดยสารสุดสัปดาห์สูง 90-95% หลังภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น

(+) จ่อลดภาษีโอนบ้าน 5 ล. หนุนอสังหาได้ยกแผง (ทันหุ้น) คลังเตรียมต่อเวลาภาษีอสังหาริมทรัพย์โอน-จดจำนอง 0.01% ออกไปอีกหลังจะสิ้นสุดปีนี้ พร้อมเล็งปรับเพดานสิทธิ์สู่บ้าน 5 ล้านบาท ซื้อสังหาคือเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านนักวิเคราะห์เชื่อรัฐประกาศมาตรการไม่เกินสิ้นปี หากลดจริงอสังหาได้เฮ! สัดส่วน 60% หนุน AP*, SIRI*, ORI*, SPALI* ยก ORI* เด่นสุด

(+) SIMAT ขาย HST รับ 175 ล. จับตาแผนใช้เงินหนุนฐาน (ทันหุ้น) SIMAT ขายหุ้น HST ให้ OTO กวาดเงินเข้ากระเป๋า 175 ล้านบาท คาดดีลจบสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เกาะติดแผนใช้เงินอัพฐานแย้มเล็งรุกประเทศเพื่อนบ้านพร้อมเดินหน้าดัน HST ลงกระดานเทรดจ่อยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ภายในปีนี้ ด้านธุรกิจ Fiber Optic ลุยกดต้นทุนลด

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • SA (เป้า Consensus 15 บาท) แนวรับ 9.7 บาท / แนวต้าน 10.1-10.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 9.5 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.4 – 23.0 บาท (Trailing stop 21 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) แนวรับ 6.1 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.6 บาท (Trailing stop 6.0 บาท)
  • SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) แนวรับ 9.9 บาท / แนวต้าน 10.5 – 10.8 บาท (Trailing stop 9.7 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 133 บาท / แนวต้าน 140-142 บาท (Trailing stop 130 บาท)
  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) แนวรับ 20.7 บาท / แนวต้าน 21.5-22 บาท (Stop loss 20.4 บาท)
  • ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 194 บาท / แนวต้าน 197.5-200 บาท (Stop loss 192 บาท)
  • SAAM (เป็นพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.0-6.2 บาท (Stop loss 5.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น้ำหนักลงทุน “น้อยกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ในภาพรวมกำไรของกลุ่มฯ จะทรงตัว YoY แต่ดีขึ้น QoQ อย่างไรก็ดี วัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมฯ ใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยจากสถิติในอดีตวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลกจะเป็นขาขึ้นราว 30 เดือนต่อเนื่องกัน ปัจจุบันผ่านมาแล้วราว 27 เดือน ขณะที่ Valuation ของกลุ่มที่ค่อนข้างแพง ฝ่ายวิจัยฯ จึงคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเป็น “น้อยกว่าตลาด” … อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการ Preview งบฯ หุ้นรายตัววันนี้เพิ่มเติม
- Advertisement -