Our View? ”ผันผวน”

มีโอกาสลดลงตามตลาดต่างประเทศ หลัง Bond Yield สหรัฐ อายุ 10 ปี

ล่าสุด เพิ่มขึ้น 1.09% อยู่ที่ 1.48% พร้อมความกังวลต่อการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้ Worst Case อาจมีผลทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหน้ี และมีความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ลงสู่ระดับต่ำสุดท่ี D คาดทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนท่ัวโลกปั่นป่วน และกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้น

แนะติดตามประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน คาดผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) จะมีการทบทวนนโยบายการค้า หลังจีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้า Phase I ซึ่งสหรัฐเรียกร้องให้จีนเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรกรรม สินค้าประดิษฐกรรม พลังงาน และบริการของสหรัฐ ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี’64

อย่างไรก็ตาม คาดยังได้ Sentiment บวกจาก (1) บริษัท Merck & Co ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยา molnupiravir เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังพบว่ามีประสิทธิภาพในการต้านไวรัส COVID-19 ได้ในทุกสายพันธุ์ ช่วยลดความกังวลการแพร่ระบาด COVID-19 คาดส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก รวมทั้งมีแนวโน้มให้หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศในระยะถัดไป และ (2) ราคาน้ำมัน ได้รับปัจจัยหนุนจากการประชุม OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. ตามคาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.3% อยู่ที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ พ.ย.’57 คาดช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ รวมถึง BANPU ที่ยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงกว่า 200 ดอลลาร์/ตัน จากวิกฤตขาดแคลนพลังงานในจีน

ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ แม้ในระยะสั้นยังได้รับ Sentiment ลบบ้าง จากน้ำท่วมในหลายพื้นท่ีที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่คาดหลังสถานการณ์คลี่คลายคาดเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง จากความต้องการ Replacement อาทิ DRT, DCC และ TASCO รวมถึงกลุ่ม Commerce ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายในช่วงปลายปี

ขณะท่ีการปรับลดอัตราส่วนผสมน้ำมัน Bio Diesel จากเดิม B7 และ B10 เป็น B6 ชั่วคราว (11-31 ต.ค.’64) และลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันของน้ำมันดีเซล B7 ลง จาก 1 บาท เหลือ 0.01 บาท มีผลวันนี้ (5/10/64) พร้อมใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเข้ามาอุดหนุนอีก 2.08 บาทต่อลิตร เพื่อที่จะควบคุมไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร คาดส่งผลต่อสถานีบริการน้ำมัน เช่น OR และ PTG คาดมีค่าการตลาดต่ำลงในช่วง 4Q/64 – 1Q/65 และโรงงานผู้ผลิต B100 เช่น PTG และ GGC ได้รับผลกระทบจากปริมาณขายลดลง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้  “TOP”

คาดผลการดำเนินงาน 2H/64 ฟื้นตัวโดดเด่น จากค่าการกลั่นในตลาดสิงคโปร์ 3Q/64TD คาดอยู่ที่ 3.5 USD/bbl จาก 2.1 USD/bbl เมื่อ 2Q/64 ผลจากความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปฟื้นตัว โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน พร้อมคาดค่าการกลั่นของน้ำมันดีเซลและอากาศยานจะเร่งตัวขึ้นในช่วง 4Q/64 จากการเข้าสู่ฤดูหนาว และการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ประเมินราคาเป้าหมาย 64.00 บาท

- Advertisement -