บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 06/10/64

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ : 19838)

ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธแกว่งตัวขึ้นต่อ … หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยบวกต่อสวนทางหุ้นโลก (ตามคาด) ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่แรลลี่ และจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้สองปัจจัยดังกล่าวน่าจะยังสนับสนุน SET Index ต่อได้ในวันนี้ ราคาน้ำมัน WTI บวกต่อเนื่องเมื่อคืน ขณะที่วานนี้ทางการไทยแถลงว่า ยารักษา COVID-19 ตัวใหม่ Molnupiravir น่าจะเข้ามาถึงประเทศไทยใน พ.ย. นี้ ผนวกกับหลายประเทศหลักๆ เช่น สหรัฐฯและยุโรป ต่างเร่งรัดการขออนุมัติและจดทะเบียนยาดังกล่าว เป็นบวกต่อแนวโน้มการเดินทางและการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4/2564 ด้านปัจจัยต่างประเทศเป็นบวกเช่นกัน นักลงทุนเริ่มลดความสนใจต่อประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เนื่องจากสถิติชี้ว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ มีแนวโน้มอนุมัติเพิ่มเพดานหนี้อยู่แล้ว แต่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายก่อนเส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ (ในรอบนี้เส้นตายอยู่ที่ 18 ต.ค. ) ขณะที่ตัวเลข ISM ภาคบริการ ก.ย. แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 61.9 จุด ซึ่งสูงกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 60.0 จุด … และสำหรับตัวเลข COVID-19 ของไทยนั้นเช้าวันนี้สบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 9,866 ราย เสียชีวิต 102 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,115 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน: 28668)

เก็งกำไร KBANK*, SPRC*, BTS* 

• KBANK* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 136 บาท / แนวต้าน 140-142 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ +/- 150 บาท (Trailing stop 132.5 บาท) 2) ประเมินมีโอกาสปลดล็อค Valuation ในรูปแบบใกล้เคียงกับ SCB* (อาทิเช่น การเตรียมขยายการลงทุนใน Fintech / การเตรียม IPO บ.ลูก เป็นต้น) ขณะที่ Valuation ปัจจุบัน Laggard โดย PBV ต่ำเพียง 0.71 เท่า (SCB* มี PBV 0.99 เท่า) 3) ประเมินผลการดำเนินงานจะค่อยๆ ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยฝ่ายวิจัยฯ คาด ROE เฉลี่ยปี 2564-66 จะทยอยฟื้นตัวขึ้นจาก 7.3% 7.8% และ 8.5% ตามลำดับ
• SPRC* (เป้าพื้นฐาน 11.4 บาท) แนวรับ 10.1 บาท / แนวต้าน 10.5 – 10.8 บาท (Trailing stop 9.8 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากทั้ง 1) ค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซล สะท้อนภาคการเดินทางขนส่งที่คาดจะฟื้นตัวใน 4Q64 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodities update) และ ii) ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรงโดย WTI ปรับขึ้น + 5% MTD เป็น Sentiment บวกต่อโอกาสกำไรสต๊อกน้ำมันดิบในอีกทางหนึ่งด้วย 3) Valuation ยังไม่แพง PBV 1.42 เท่า (เท่ากับเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า) ขณะที่คาดกำไรจากการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวเด่นใน 4Q64 ตามค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว
• BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.45 บาท / แนวต้าน 9.85 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 10.3 บาท (Stop loss 9.3 บาท) 2) ประเมินธุรกิจหลักรับ Sentiment บวกจากการเตรียมเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการประเทศภายใน 4Q64 คาดจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าในระบบฯ ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว 3) ประเมิน Catalyst บวกอื่นๆ i) ราคาหุ้น Laggard หุ้นที่ไปลงทุนไว้อาทิ การลงทุนในกลุ่ม JMART เป็นต้น และ ii) คาดพันธมิตร BGSR* (BTS*, GULF*, STEC*, RATCH*) ยังเดินหน้าประมูลงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายโครงการ

หุ้นมีข่าว

(+) OR ทุ่มกว่า 1.6 พันล. ตั้งกองทุนลุยสตาร์ทอัพ (กรุงเทพธุรกิจ)” โออาร์ “ควักเงินกว่า 1.6 พันล้าน ส่งบริษัท ย่อยตั้ง “ไพรเวทฟันด์ ” ลงทุนสตาร์ทอัพทั้งในไทย-ต่างประเทศหวังสร้าง “นิวเอสเคิร์ฟ” ด้านบล.กสิกรไทยเชื่อต่อยอดธุรกิจเสริมความแข็งแกร่ง

(+) บขส. จัดหาอีวี 300 คัน NEX-EA” ดีลรถบัสอื้อ (ทันหุ้น) รัฐหนุนสุดตัวอีวีตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเรียกลงทุนเพิ่มเติมด้านบขส. รับลูกปรับแผนเดินรถอีวี 300 คันทันที บิ๊ก NEX แย้มเจรจาลูกค้าใช้งานรถบัสไฟฟ้าหลายรายปีนี้ส่งมอบ 400 คันตามแผน ปีหน้าออเดอร์อื้อ ด้าน EA ชูไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญต่างๆในอาเซียน

(+) ROJNA-WHA* -EGCO * เฮ! ครม. ตั้งเขตศก. พิเศษเพิ่ม (ทันหุ้น) ROJNA-WHA-EGCO ยิ้มรับครม. ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 6,884 ไร่ ในพื้นที่ EEC ตั้งเป้าลงทุน 10 ปีกว่า 3 แสนล้านบาทรองรับอุตสาหกรรม เป้าหมายรองรับต่างชาติลงทุนในอนาคต

(+) ทอท. เคาะงบ 3.6 หมื่นล้าน ทุ่มพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บอร์ดทอท. เคาะลงทุนพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 ปรับแผนขยับวงเงินเป็น 3.68 หมื่นล้านบาท รวมสร้าง 12 หลุมจอดเพิ่มรองรับ 50 ล้านคน / ปี พร้อมตั้งงบ 600 ล้านบาทจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียดใน 1 ปี คาดเริ่มสร้างปี 66 เปิดอาคารหลังที่ 3 เป็นระหว่างประเทศปี 68 พร้อมตั้งโปรเจกต์เอกชนลงทุน JUNCTION BUILDING พัฒนาเชิงพาณิชย์

(+) WGE ลุ้นประมูลงานใหม่ 3 พันล้าน ปีหน้าผุดโรงงาน ASPHALT รุกธุรกิจก่อสร้างถนน (ข่าวหุ้น) WGE มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตโชว์แบ็กล็อกแน่น 3,697 ล้านบาท พร้อมอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ 2,000-3,000 ล้านบาท ลุ้นกันแบ็กล็อกแตะ 5,000 ล้านบาท คาดทั้งปี 64 พลิกมีกำไรพร้อมทุ่มงบ 150 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักร-สร้างโรงงาน Prefab แย้มปี 65 เตรียมสร้างโรงงาน ASPHALT รองรับการขยายธุรกิจสู่งานก่อสร้างถนน

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

• PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.55 บาท) แนวรับ 6.35 บาท / แนวต้าน 6.65 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 6.2 บาท)
• ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 222 บาท) แนวรับ 194 บาท / แนวต้าน 200 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 192 บาท)
• MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.9 บาท / แนวต้าน 22.5-23.0 บาท (Trailing stop 21.2 บาท)
• IVL* (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) แนวรับ 43 บาท / แนวต้าน 46.5 – 47.5 บาท (Stop loss 42.5 บาท)
• GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) แนวรับ 20.5 บาท / แนวต้าน 21.5-22 บาท (Stop loss 20.4 บาท)
• SAAM (เป็นพื้นฐาน 8.2 บาท) แนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 6.0-6.2 บาท (Stop loss 5.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

• กลุ่มโรงไฟฟ้า น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับขึ้นแรงจะกระทบต่ออัตรากำไรของหุ้นโรงไฟฟ้า SPPs ใน 2H64 ซึ่งหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ ออกบทวิเคราะห์ BGRIM* จะกระทบสูงสุดรองลงมา ได้แก่ GULF* และ GPSC* ตามลำดับ เลือก GPSC* เป็นหุ้นเด่น เพราะผลกระทบน้อยสุด และราคาหุ้นยัง Laggard
• INTUCH* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 76 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปกติ 3Q64 = 2.58 พันล้านบาท (-8% QoQ, -3% YoY) โดยกำไรที่ชะลอตัวลงเป็นผลจากส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจในกลุ่มที่คาดจะชะลอตัวลงโดยเฉพาะจาก ADVANC* ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับราคาเหมาะสม INTUCH* ขึ้นเป็น 76 บาท (เดิม 66 บาท) จากการปรับสมมติฐาน Discount NAV (จาก 22% เหลือ 10%) ลงเพื่อสะท้อนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มฯ (โอกาส Synergy benefit ในอนาคต) แต่ Upside ก็ยังจำกัด จึงแนะนําเพียง “ถือ”

- Advertisement -