บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
3Q21 มองกําไรทรุดแรง
เราคาดว่าผลประกอบการงวด 3Q21 จะมีกำไรสุทธิเหลือเพียง 2,207 ลบ. (- 70%YoY, -53%QoQ) ได้รับแรงกดดันจากราคาเนื้อสัตว์ที่อ่อนตัวลง โดยราคาสุกรลดลงท่ีไทย 13%YoY, 10%QoQ และเวียดนาม 30%YoY, 20%QoQ (โดยประมาณ) เช่นเดียวกับราคาเน้ือไก่ท่ีลดลง 10%YoY, 9%QoQ เกิดจากการระบาดของโควิดที่ทำให้ภาครัฐมีมาตรการล๊อคดาวน์ขึ้นท้ังสองประเทศ รวมถึงมาตรการป้องกันในโรงงานที่ทำให้กำลังการผลิตไก่เพื่อ ส่งออกลดลงตามไปด้วย โดยเราคาดรายได้อยู่ท่ี 123,114 ลบ. (-22%YoY, -5%QoQ) กำไรขั้นต้นเหลือ 15% จาก 19% ใน 3Q20 และ 16% ใน 2Q21 ต่ำสุด นับต้ังแต่ 3Q19 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 12,311 ลบ. (- 22%YoY, +0.1%QoQ) โดยมีค่าใช้จ่ายในการป้องกันโควิดเพิ่มเข้ามา สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงิน ลงทุนในบริษัทร่วมคาดว่าจะลดลง 65%YoY, 5%QoQ จากผลประกอบการท่ีไม่ดีนักของทั้ง CPALL และ CTI โดย CTI ได้รับผลกระทบจากราคาสุกรในประเทศจีนที่ลดลงมากจากระดับ 19.9 หยวน/กก. เหลือต่ำกว่า 15 หยวน/กก.แล้วจากปัญหาความต้องการบริโภคท่ีลดลง
ราคาเริ่มฟื้น แต่คาดว่าจะไม่เร็วนัก
หลังจากราคาเนื้อสัตว์ท่ีอ่อนตัวลงในช่วง 3Q21 ท่ีผ่านมา ล่าสุดราคาเริ่มเห็นการปรับตัวเพิ่มข้ึนได้แล้ว หลังจากภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด แต่การฟื้นตัวคาดว่าจะไม่รวดเร็วนักเพราะปริมาณผลผลิตท่ีเพิ่มข้ึนในช่วงที่ผ่านมายังเป็นตัวกดดันอยู่ โดยเฉพาะราคาสุกรสำหรับการเข้าซื้อธุรกิจสัตว์น้ำที่โปแลนด์ทาง CPF กล่าวว่าเป็นการขยายตลาดไปยังทวีปยุโรปเพิ่ม ส่วนแผนการนำ CPP ออกจากตลาดหุ้นฮ่องกง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4-6 เดือน
ปรับกําไรสุทธิลงหลังแนวโน้มไม่สดใส
สำหรับแนวโน้มในช่วง 4Q21 แม้ว่าราคาเน้ือสัตว์จะเริ่มฟื้นแต่ด้วยการเป็น Low Season ของภาคการส่งออกและธุรกิจสัตว์นำ้จะทำให้ผลประกอบการไม่ได้เติบโตจาก 3Q21 ได้มากนัก ทำให้เรามีการปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิในปี 21 และ 22 ลงจากเดิม 16% และ 13% มาอยู่ที่ 16,877 ลบ. (-35%YoY) และ 19,638 ลบ. (+16%YoY) ตามลำดับ
สำหรับคำแนะนำการลงทุน แม้ว่าแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สดใส แต่ด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจหลังการเปิดเมืองจะทำให้ราคาเน้ือสัตว์มีโอกาสกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ รวมถึงทาง CPF อยู่ระหว่างการซื้อหุ้นคืนซึ่งจะช่วยพยุงราคาหุ้นได้อีกทาง เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมท่ี 27.50 บาท (12XPER’22E)