Trading Range ฟื้นตัวเล็กน้อย 1630 – 1650

PICKS OF THE DAY

BCPG BUY

  • แนวโน้มกําไรไหลลื่น: โรงไฟฟ้า BCPG เป็นพลังงานหมุนเวียน (โซลาร์ 39%, น้ำ 22%, ความร้อนใต้พิภพ 34%, ลม 5%) ต้นทุนจากธรรมชาติไม่มีผลลบจากราคาเชื้อเพลิงพลังงานที่เพิ่มมาก อีกท้งได้ผลดีจากพลังน้ำที่ดีมากปีนี้ ทำให้คาดกำไร 3Q64 มีโอกาสเพิ่ม y-y และ q-q
  • จังหวะเข้าที่ดี: ราคาล่าสุดมีความเสี่ยงต่ำ เข้าใกล้ช่วงต่ำสุดของช่วงราคาใน 8 เดือนที่ผ่านมาที่ 15-13 บาท) ขณะที่งบ 3Q64 เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้

TACC BUY

  • Sentiment บริโภคดีขึ้น: เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ ทำให้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น หนุนคนจับจ่ายใช้สอยออกนอกบ้านและเดินทางมากขึ้น หนุนการบริโภคในประเทศดีขึ้น
  • คนเข้า 7-11 มากข้ึน: ศบค. ปรับลดเวลาเคอร์ฟิวส์ เป็น 23.00- 03.00 น. บวกกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ทำให้ Traffic คนเข้า 7-11 มีมากขึ้น

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ฟื้นตัวเล็กน้อย: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างอิงทางบวกระหว่าง 1630 – 1650 จุด หลังรายล้อมด้วยปัจจัยเชิงบวกภายในและภายนอก โดยปัจจัยเชิงบวกภายใน ได้แก่ 1) ศบค. ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมมีผลวันที่ 16ต.ค.นี้ และ 2) วานนี้บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา แถลงว่าจากข้อมูลล่าสุด บริษัทคาดว่าจะเริ่มส่งมอบวัคซีน Moderna จำนวน 1.9 ล้านโดส ครั้งแรกในเดือน พ.ย. นี้ ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงบวกภายนอก ได้แก่ 1) FDA สหรัฐเริ่มต้นการพิจารณาใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) เป็นการฉุกเฉินแล้ว 2) ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐวานนี้ รายงานเพิ่มขึ้นเพียง 2.93 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.19 แสนราย และ 3) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่อสู้ระดับ 1.519% ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนในระยะสั้น
  • สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาสูงกว่าตลาดคาดไว้ค่อนข้างมาก: รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐวานนี้เพิ่มขึ้น 6.1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มากที่คาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.702 ล้านบาร์เรล อาจส่งผลกดดันการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่ม ENERG ในระยะสั้น จำกัด Upside ของตลาด แม้ราคาน้ำมันดิบโลกล่วงหน้า WTI จะปรับตัวขึ้น 1.08% หลังซาอุฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่จะให้กลุ่ม OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานก็ตาม
  • ศบค. ผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมมีผล 16 ต.ค.นี้: รายละเอียดเบื้องต้น ได้แก่ 1) ปรับลดเวลาเคอร์ฟิว เป็น 23.00 – 03.00 น. 2) ขยายเวลาเปิดศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ โรงภาพยนตร์ เป็น 22.00 น. และ 3) ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ลดลงเหลือ 23 จังหวัด ในภาพรวมทั้งฝ่ายมองว่าภาครัฐมีความพยายามในการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับกำหนดการที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ดังนั้น จึงยังมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Reopening ที่ราคายัง Laggard แต่ยังต้องติดตามตัวเลขการฉีดวัคซีนรายวันต่อไป
  • FDA สหรัฐเริ่มพิจารณายาเม็ด Molnupiravir ในกรณีฉุกเฉิน: ทางฝ่ายมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว ขณะที่วานนี้ ศบค. เห็นชอบให้จัดซื้อยาเม็ด Molnupiravir จำนวน 5 หมื่นคอร์สการรักษา ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างเร็วของรัฐบาล ดังนั้นหาก Molnupiravir ผ่านการอนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉินจาก FDA สหรัฐ ก็อาจนำไปสู่การจัดซื้อต่อได้ในอนาคต
  • ปัจจัยเด่นน่าติดตามต่อในสัปดาห์หน้า: 1) การประกาศผลประกอบการ 3Q64 ของกลุ่มธนาคาร และ 2) วันจันทร์จีนเตรียมประกาศ GDP 3Q64 ตลาดคาดขยายตัว 0.5% q-q และ 5.2% y-y
- Advertisement -