บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 

Krungthai Card ผลประกอบการ 3Q64: อัตราการเติบโตสะดุด

Event

กำไรสุทธิของ KTC ใน 3Q64 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (-22% QoQ แต่ + 7% YoY) ต่ำกว่า consensus 16% โดยกำไรสุทธิในงวด 9M64 อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท (+15% YoY) และคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

Impact

ต้นทุนทางการเงินลดลงช่วยชดเชย yield ที่ถูกกดดันไปได้บ้าง

ผลตอบแทนสินเชื่อ (loan yield) โดยรวมลดลง 40bps QoQ และ 200bps YoY โดย yield ที่ลดลง QoQ สะท้อนถึงผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลงของสินเชื่อส่วนบุคคล ในขณะที่ yield ของสินเชื่อบัตรเครดิตยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม โดย yield ที่ลดลง YoY สะท้อนถึงการที่ ธปท. ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ลงในกลางปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินก็ลดลงในอัตราเดียวกัน ซึ่งช่วยหักล้างผลของ yield ที่ลดลง และรักษาระดับส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิเอาไว้เท่าเดิมที่ประมาณ 17.6%

รายได้จากการติดตามหนี้เสียที่ลดลงลดลง และ opex ที่เพิ่มขึ้นทำให้สัดส่วน C/I เพิ่มขึ้น

รายได้จากการติดตามหนี้เสียลดลง 12%QoQ และ 5%YoY ตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงใน 3Q64 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นปานกลาง +4% QoQ และ +3% YoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ ทำให้สัดส่วนต้นทุน/รายได้ (สัดส่วน C/I) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 35% ใน 3Q64 (จาก 31% ในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า)

ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลง 12% ใน 3Q64 และลดลง 1.6% ในงวด 9M64

เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 พลิกกลับมาสูงอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลง 14%ในเดือนกรกฎาคม, 19%ในเดือนสิงหาคม และ -2.3% ในเดือนกันยายน รวมแล้วลดลง 12% ใน 3Q64 ทั้งนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ลดลง ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างลดลง 2%QoQ และ 1%YoY  ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกันกับสินเชื่อส่วนบุคคล

Write-off สินเชื่อจาก KTBL

หลังจากที่เข้าไปซื้อ KTBL ในเดือนพฤษภาคม 2564 (มีพอร์ตสินเชื่อ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) KTC ได้เข้าไปเคลียร์หนี้เสียบางส่วนไป 1 พันล้านบาท โดยยังคงมีพอร์ตสินเชื่อเหลืออยู่อีกประมาณ 3.3 พันล้านบาทใน 3Q64 ส่งผลให้สัดส่วน NPL รวมลดลงเหลือ 3.8% (จาก 4.4% ใน 2Q64) และสัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 300% (จาก 250% ใน 2Q64)

Valuation and action

ถึงแม้ว่าผลประกอบการใน 3Q64 จะแย่ลงอย่างมาก แต่กำไรสุทธิในงวด 9M64 ยังคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา และทำให้เรายังคงสมมติฐานประมาณการกำไรปีนี้เอาไว้เท่าเดิม ในขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้การดำเนินงานของบริษัทฟื้นตัวดีขึ้น ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2565F เอาไว้ที่ 91 บาท

Risks ไม่สามารถเติบโตสินเชื่อภายใต้ KTBL ได้ในปีหน้า ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่ม

- Advertisement -