DPAINT ประกาศความพร้อมเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai เคาะราคาขาย IPO จำนวน 53.25 ล้านหุ้น ที่ราคา 7.50 บาทต่อหุ้น กำหนดเปิดจองซื้อ 19 – 21 ต.ค.นี้ พร้อมเทรดในตลาด mai 28 ตุลาคมนี้ ชูจุดแข็งทางธุรกิจ หนึ่งในผู้นำธุรกิจสีทาอาคารที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพ และตรงความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตั้งแท่นก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดในระดับ Top 5 ของอุตสาหกรรมสีทาอาคารของไทย

 

นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ทั้งในด้านแหล่งเงินทุน การผลิต และแผนการขยายตลาดเชิงรุก ควบคู่การบริหารจัดการด้วยมาตรฐานสากล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในอนาคต จึงอยากเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของเรา

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวนประมาณ 373.16 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) จะนำไปใช้ลงทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2568 เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิต และบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท ภายในปี 2568 เพื่อขยายจำนวนร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขยายผลิตภัณฑ์สีกลุ่มที่อัตรากำไรดี

นอกจากนี้ จะนำเงินไปใช้ลงทุนในการทำระบบ ERP จำนวนประมาณ 10 ล้านบาท และใช้ลงทุนสร้างห้อง LAB จำนวนประมาณ 5 ล้านบาท ภายในปี 2565 ใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น 25 ล้านบาท ภายในปี 2564 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 83.20 ล้านบาท

นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน  53.25 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.50 บาท เปิดให้จองซื้อในวันที่ 19-21 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 28 ตุลาคมนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 7.50 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 32.80 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563-30 มิถุนายน 2564) โดยถือว่ามีส่วนลดพอสมควรจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเฉลี่ยของกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหมือนหรือคล้ายคลึงกันทั้งในและต่างประเทศ และมองว่า DPAINT มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น เป็นหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายที่ 3 ในตลาดทุน ที่โดดเด่นทางด้านนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรที่จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

โดย DPAINT ได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความน่าสนใจของ DPAINT คือสถานะความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสีทาอาคารที่อยู่ในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 42 ปี ตลอดจนผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ วางกลยุทธ์การขยายธุรกิจในเชิงรุก ด้วยปัจจัยสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจสีที่ยังมีโอกาสการเติบโตในอนาคต เนื่องจากสีคือวัสดุก่อสร้างที่ต้องมีการใช้ซ้ำ จึงมีความต้องการจากตลาด อีกทั้งยังพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นธุรกิจที่ต้องเดินหน้าคู่ขนานไปกับการเติบโตของการก่อสร้าง การพัฒนาเมือง และประเทศชาติ โดยเฉพาะ ประเทศไทยมีการพัฒนาและลงทุนในงานโครงสร้างพื้นฐานตามแผนระยะยาว ทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวได้เร็ว และส่งผลให้มีความต้องการสีทาอาคารเติบโตควบคู่ไปด้วย จึงเชื่อมั่นว่า DPAINT จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้

ทั้งนี้ DPAINT มีผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561- 2563) บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 519.3 ล้านบาท 585.7 ล้านบาท และ 596.2 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 7.2% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.4 ล้านบาท 34.9 ล้านบาท และ 41.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 83.7%

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 เติบโตตามแผน แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 Ffpมีรายได้จากการขายและบริการ 387.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.7% กำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท เติบโต 48.2% อัตรากำไรขั้นต้น 43.3% อัตรากำไรสุทธิ 8.5%

**************************

- Advertisement -