Daily View

ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1637 – 1651 ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ๆ ขณะที่เมื่อคืนตลาดหุ้น Dow Jones แกว่งแคบปิดลบเพียง 0.1% ส่วนเช้านี้ Nikkei เคลื่อนไหวแดนบวกอ่อนๆ ราว 0.5% สำหรับภายในประเทศเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน วานนี้ KKP รายงานกำไรสุทธิที่ 1.47 พันล้านบาท (+10%YoY +9%QoQ) ดีกว่า Bloomberg คาด 19% ด้านใส้ในถือว่าผลประกอบการค่อนข้างสดใส หนุนจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +1%QoQ +8%YoY (2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย +2%QoQ +54%YoY (3) ผลขาดทุนด้านเครดิต (-27%QoQ -1%YoY) ดังนั้นเรายังคงยืนยันคล้ายมุมมองในสัปดาห์ว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะออกมาเป็นกลางถึงบวกต่อภาพรวมการลงทุน ขณะที่วันนี้ระยะสั้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีความน่าสนใจหลัง 2 ธนาคาร (KKP TISCO) รายงานกำไรที่มิได้ดูน่ากังวลท่ามกลางการระบาด COVID-19 ที่ช่วง 3Q21 เผชิญการระบาดทั้งไตรมาส ส่วน 4Q21 เชื่อว่าจะดีขึ้นตามการคลาย Lock Down เชิง Valuation กลุ่มซื้อขายเพียง 0.7x Trailing PBV ต่ำสุดในรอบ 13 ปี ทำให้ Downside Risk จำกัด ขณะเดียวกันจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง มอง BBL น่าสนใจ ด้วยความ Laggard และ Valuation ยังมีส่วนลดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อย่าง KBANK และ SCB ที่ซื้อขาย 0.75x , 0.99x Trailing PBV ตามลำดับ ส่วน BBL ซื้อขายเพียง 0.49x Trailing PBV ซึ่งก่อน COVID-19 ซื้อขายราว 0.7x Trailing PBV

กลยุทธ์การลงทุน มองกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) มีความน่าสนใจสำหรับการ Trading ระยะสั้น ส่วนระยะกลาง – ยาว BBL น่าสนใจ สำหรับกลุ่มอื่นๆในระยะกลางยังคงเป็น Theme การเปิดเมือง แต่ควรพิจารณา เลือกหุ้นมากขึ้นหลังเนื่องจากหุ้นหลายตัวปรับขึ้นมาสูงที่ยัง Laggard ได้แก่ รถไฟฟ้า (BTS BEM) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) พร้อมคงคำแนะนำทยอยสะสม SCGP

Stock Pick

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 162 บาท) คาดกำไร 3Q21 ที่ 6.4 พันล้านบาท (+ 60%YoY, +1.3%QoQ) จากการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะที่กำไรก่อนการตั้งสำรองจะลดลง 22%QoQ (+35%YoY) จากการลดลงของรายได้มิใช่ดอกเบี้ย ตามการชะลอตัวเศรษฐกิจพร้อมคาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง 4Q21 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ และโอกาสเปิดประเทศในปีหน้า

CK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24 บาท) คาดว่าผลประกอบการในงวด 3Q21 จะมีกำไรสุทธิ 108 ลบ. (-86%YoY,-66%QoQ) โดยไตรมาสนี้ยังมีกำไรได้จากผลดีของบริษัทร่วมโดยเฉพาะ CKP ที่เป็นช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจก่อสร้างเองเป็นไตรมาสที่ไม่ดีนัก เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันโควิด โดยเฉพาะการปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ตาม มองว่า CK เป็นตัวเก็งงานภาครัฐที่จะออก รวมถึงได้รับผลดีจากผลประกอบการของบริษัทลูกอย่าง BEM ที่จะเริ่มฟื้นในช่วง 4Q21 หลังคลายล็อคดาวน์

- Advertisement -