สรุปภาวะตลาด
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นประมาณ 5 จุด โดยปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นในเอเชียเหนือ หลังจากท่ีจีน รายงาน GDP ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลงเล็กน้อย โดย SET ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานปิโตรเคมีและธนาคาร ประกอบกับนักลงทุนจับตาการรายงานงบไตรมาส 3 ท่ีทยอยประกาศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,643.92 จุด +5.58 จุด +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 80,254 ต่างชาติ +3,773.87 ลบ. TFEX +9,187 สัญญา ตราสารหนี้ -1,997.56 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ +0.2% ปิดที่ 82.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับแนวโน้มความต้องการ ใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นท่ัวโลก นลท.จับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้
+ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่าจีนสามารถจำกัดวงความเสี่ยงจากบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ท่ีมีต่อเศรษฐกิจและระบบการเงินจีนได้
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านบวก 4 จุด สู่ระดับ 80 ในเดือนต.ค. ดัชนีสูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงมุมมองบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างปรับตัวข้ึน
+ สธ.เห็นชอบสูตรฉีดวัคซีนใหม่ ซิโนแวค-ไฟเซอร์ แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์
+ผลสำรวจของ TRA Poll ของผู้บริหารกลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง และบริการ ชี้ให้เห็นว่านโยบายการเตรียมเปิดประเทศ เป็นสัญญาณท่ีดี
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ต่ำกว่าระดับหมื่นราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 9,122 ราย มีผู้เสียชีวิต 71 ราย รักษาหาย 10,731 ราย
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 36.15 จุด -0.10% ได้รับแรงกดดันจากตัวเลข GDP ของจีนท่ีขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร นลท.จับตาผลประกอบการของบรษิทัจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเน็ตฟลิกซ์
-จีนรายงาน GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 4.9%YoY ต่ำกว่าท่ีนักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 5.2% ขยายตัวใน อัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 3 ไตรมาส โดยเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงาน ภาวะติดขัดด้าน อุปทาน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการท่ีรัฐบาลควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์
– กองทัพจีนประณามสหรัฐและแคนาดาท่ีส่งเรือรบผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าทั้งสองประเทศกำลังคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
– IMF เปิดเผยว่า จีนสร้างความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงจากการกวาดล้างทางเศรษฐกิจคร้ังใหญ่ ตั้งแต่ธุรกิจเทคโนโลยี โรงเรียนกวดวิชา ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์
– FDA ของสหรัฐเรียกร้องให้ดำเนินการวิจัยเชื้อไวรัสสายพันธ์ุเดลตาท่ีกลายพันธุ์ หรือที่เรียกว่า เดลตาพลัส เป็น การด่วน หลังจากท่ียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอังกฤษ กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง
-แบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจไทยโตล้าหลังกว่าภูมิภาค ยังต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ ขณะท่ีรมว.คลัง ยอมรับต้องกู้เงินมากกว่าปกติเพราะปัญหาโควิด จึงต้องขยายเพดานเกิน 60%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด นักลงทุนยังคง ติดตามการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ WTI ท่ีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถพยุงตลาดได้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1635-1,650 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ: TOP SPRC ESSO PTTGC
- เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว: MINT ERW CENTEL AWC SHR ASAP AOT AAV BA
- ครม.ไฟเขียวจัดต้ังเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง: ROJNA WHA EGCO
- ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว: CPN CRC MBK CPALL BJC BEM BTS M AU ZEN
หุ้นรายงานพิเศษ
HENG (ราคา IPO 1.95 บาท)
- บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล ประกอบธุรกิจ (1) สินเช่ือเช่าซื้อ (2) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (3) สินเช่ือที่มีบ้านและท่ีดินเป็นหลักประกัน (4) สินเช่ือส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเช่ือท่ีมีทะเบียนรถเป็นประกัน (5) สินเช่ือรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ และ (6) นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต แก่ลูกค้ารายย่อยท่ัวไป ภายใต้ชื่อ “เฮงลิสซิ่ง”สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ 65% ของสินเช่ือรวม ปลาย มิ.ย. 64 มีสาขา 451 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ และมีแผนเพิ่มเป็น 830 สาขา ภายในปี 2566
- ปี 61-63 รายได้รวม 1,406.9 ลบ. 1,743.4 ลบ. และ 1,590.0 ลบ. ตามลำดับ รายได้หลัก คือ รายได้ ดอกเบี้ย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 88-91% ของรายได้รวมในแต่ละปี ในปี 63 รายได้รวม -8.8%YoY เนื่องจาก สถานการณ์ COVID-19 ทำให้บริษัทฯ เพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อใหม่ ปี 61-63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 151.8 ลบ. 188.7 ลบ. และ 318.1 ลบ. คิดเป็น CAGR 44.7% ต่อปี ในช่วง 1H64 มีรายได้รวม 765.2 ล้านบาท -8.8%YoY เนื่องจากมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กำไรสุทธิ 109.1 ลบ. -36.2%YoY
- เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 800,837,300 หุ้น คิดเป็น 21% ของจำนวนหุ้นสามัญท่ีออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด Par 1 บาท ที่ราคา IPO หุ้นละ 1.95 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 1,5612 ล้านบาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1.ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ 2.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน 3.พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Software และ Mobile Application วันเริ่มเทรดกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะขายหุ้นให้แก่ KBANK รวม 381,000,000 หุ้น คิดเป็น 10% ของทุนชำระหลัง IPO ผ่านรายการ big lot
- Trailing P/E ท่ี 29x เทียบกับ บจ.ท่ีธุรกิจคล้ายกัน ได้แก่ MTC 24.2x, SAWAD 18.9x, SAK 36x, TIDLOR 31.1x และค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 27.5x
หุ้นมีข่าว
(+) TEAMG (Bloomberg Consensus 2.91 บาท) เดินหน้าคว้างานเพิ่ม จ่อเซ็นสัญญางานใหม่ 1-2 โครงการ มูลค่าราว 200-300 ล้านบาท เติมงานในมือเพิ่มจากเดิมมีอยู่กว่า 3,600 ล้านบาท ชี้เปิดประเทศเป็นโอกาสเข้ารับงานในกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้น มั่นใจร่วมทุนพันธมิตรต่อยอดธุรกิจหนุนอนาคตเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PSTC (Bloomberg Consensus 3.70 บาท) ส่งบริษัทลูก BIGGAS ชนะงานประมูลการ จำหน่าย LNG จากกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมทางการแพทย์ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ผู้บริหารแย้มไตรมาส 4/2564 มีงาน EPC อยู่ระหว่างการทำสัญญา 800-1,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IMH (Bloomberg Consensus 21.45 บาท) แย้มอยู่ระหว่างศึกษาแผนเทคโอเวอร์ โรงพยาบาลเพิ่มอีก 1-2 แห่ง หวังเสริมแกร่งรพ.ประชาพัฒน์ ปูทางน่ารพ.เข้าระดมทุนในตลาด หลักทรัพย์ฯ ในปี 65 ขณะที่ประกาศพร้อมรับมือให้บริการตรวจและรักษาโควิด-19 ครบวงจร เล็งเปิดศูนย์แพทย์เฉพาะทางรักษาผู้ป่วยหลังโควิด (Post-Covid) (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) NRF (Bloomberg Consensus 9.25 บาท) บอร์ด NRF ไฟเขียว ทุ่ม 60 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น GTH เพิ่มอีก 51% จาก “จุลภาศ เครือโสภณ” เพื่อถือหุ้นเต็ม 100% คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4/64 หวังขึ้นเป็นผู้นำตลาดกัญชง พร้อมตั้งบริษัทโฮลดิ้งเข้าถือหุ้นบริษัทในเครือ “โนฟ ฟู้ดส์” ทั้งหมด รองรับการเติบโตกลุ่มธุรกิจกัญชง-แพลนต์เบสในอนาคต นอกจากน้ีตั้ง “รีเจนเนอเรชั่น แคปปิตอล” และ “รีเจนเนอเรชั่น แคปปิตอล (สิงคโปร์) ” เพื่อบริหารและคัดสรรการลงทุนภายใต้กลุ่มบริษัท (ท่ีมา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
18-19 ต.ค.ธปท.จัดงาน Bangkok Fin Tech Fair 2021
21 ต.ค.ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ก. พาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ภายใน 21 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 3Q64
สัปดาห์ที่ 5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคและดัชนีความเชื่อมั่นอนาคต เศรษฐกิจภูมิภาค สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
29 ต.ค.ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
1 พ.ย. เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดส
1 ธ.ค.เปิดผับบาร์ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
19 ต.ค. สหรัฐรายงานการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ก.ย.
20 ต.ค.จีน ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย.
อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.
สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA
21 ต.ค. สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน ต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.
22 ต.ค. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ-ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ต.ค. จากมาร์กิต
สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ-ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ต.ค. จากมาร์กิต
25 ต.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือน ก.ย. ดัชนีการผลิตเดือน ต.ค.จาก เฟดดัลลัส