บล.คันทรี่ กรุ๊ป:

“3Q21 โดนล๊อคดาวน์กดดันกำไร”

คาด 3Q21 มีกำไร 2,014 ลบ. (-50%YoY, -8%QoQ)

เราคาดว่าผลประกอบการงวด 3Q21 ยังไม่สดใสนัก โดยคาดกำไรอยู่ที่ 2,014 ลบ. (-50%YoY, -8%QoQ) แรงกดดันหลักมาจากมาตรการล็อคดาวน์ของภาครัฐ ที่ทำให้ยอดขายต่อสาขาเดิมลดลงไปประมาณ 10%YoY ขณะที่การเปิดสาขาทำได้ประมาณ 140 สาขา ส่วนรายได้จากทาง MAKRO คาดว่ายังดูดี เพราะได้รับผลกระทบน้อยกว่ารายได้คาดไว้ที่ 125,352 ลบ. (-4%YoY, -5%QoQ) กำไรขั้นต้นทรงตัวจาก 2Q21 ที่ระดับ 21% ลดลงจาก 22% ใน 3Q20 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 26,324 ลบ. (-4%YoY, -4%QoQ) ส่วนแบ่งขาดทุนยังสูง หลังจากโลตัสยังมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงแบรนด์ รวมถึงได้รับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐเช่นกัน ส่วนดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะลดลงจาก 2Q21 เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมในการคืนเงินกู้ระยะสั้นเข้ามา แต่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพราะมีภาระดอกเบี้ยในการเข้าซื้อโลตัส

4Q21 คาดเห็นการฟื้นตัวหลังมีการเปิดประเทศ

แนวโน้มในช่วง 4Q21 เราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจาก 3Q21 ได้ หลังจากภาครัฐมีการผ่อนคลายมากขึ้นทั้งการเปิดร้านได้ถึง 22 นาฬิกา หรือปรับลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่มตี 3 อีกทั้งในเดือน พ.ย. ทางรัฐบาลยังเตรียมเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกทาง (แต่เบื้องต้นส่วนนี้เรามองกระทบไม่มากนัก เพราะยังต้องลุ้นว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามามากน้อยเพียงใด) ส่วนการปรับโครงสร้างของ MAKRO ที่จะเข้าไปถือหุ้นในโลตัสแทนกลุ่ม CPRH ทาง CPALL จะได้รับผลดีเบื้องต้น คือ การนำหุ้น MAKRO เข้าไปร่วมขายซึ่งเงินสดที่ได้รับมาจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้ ส่วนผลกระทบทางลบในระยะแรก คือ สัดส่วนการถือหุ้นใน MAKRO จะลดลงจาก 93% เหลือ 66% (ก่อนการขายหุ้น PO หรือ 52-55% ขึ้นกับว่าหุ้น MAKRO ที่ให้ยืมไปร่วมขายจะรับคืนเป็นหุ้นหรือไม่) ทำให้ระยะสั้นอาจกระทบผลประกอบการได้ แต่ระยะยาวเรามองว่าหลังจากผลประกอบการเริ่มเข้าที่แล้ว กำไรจากทางโลตัสที่เพิ่มให้กับ MAKRO จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวลงได้

คงประมาณการเดิมไว้ก่อน รอประเมินหลังงบออกอีกที

หากกำไรสุทธิในงวด 3Q21 ออกมาตามคาดกำไรในช่วง 9M21 จะอยู่ที่ระดับ 6,820 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 63% จากกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 10,895 ลบ. โดยเราอาจจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งหลังงบออก รวมถึงจะรวมผลกระทบจากปรับโครงสร้าง MAKRO เข้ามาอีกที สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรามองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกเรื่องการเปิดเมืองไประดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ” เช่นเดิม แต่อาจเก็งกำไรระยะสั้นๆ ได้หากการเปิดเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 60.75 บาท (32XPER’22E)

- Advertisement -