TPIPP เสนอขายหุ้นกู้ จำนวนไม่เกิน 5 ล้านหน่วย วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุหุ้นกุ้ 4 ปี 3 เดือน ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.55% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 เสนอขายวันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ ให้กับนักลงทุนทั่วไปและสถาบัน ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 13 แห่ง ทริสเรทติ้ง จัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+  และแนวโน้มอันดับเครดิต Stable ตอกย้ำศักยภาพผู้นำอันดับหนึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่ช่วยกำจัดขยะให้ประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 2 โครงการ คาด COD ได้ในปี 2566

 

 

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นกู้ TPIPP ครั้งที่ 2/64 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จำนวนหน่วยที่เสนอขายไม่เกิน 5 ล้านหน่วย อายุ 4 ปี 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่อันดับ BBB+ และแนวโน้มอันดับเครดิต Stable และมีอันดับเครดิตเฉพาะองค์กรของบริษัทที่ระดับ A ตอกย้ำถึงศักยภาพผู้นำอันดับหนึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่ช่วยกำจัดขยะให้ประเทศ ซึ่งอันดับเครดิตสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนและมั่นคงของ TPIPP ซึ่งได้รับจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreements – PPA) ที่มีกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านต้นทุนเชื้อเพลิงของบริษัท โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.55% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะเริ่มชำระดอกเบี้ยงวดแรก 12 กุมภาพันธ์ 2565 โดยวัตถุประสงค์การออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้บางส่วนที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 และใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 2 โครงการที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดนครราชสีมา โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2566

ส่วนการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไป (Public Offering) มูลค่าหุ้นกู้ที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท นักลงทุนที่สนใจสามารถแสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 13 ราย ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป บริษัทหลักทรัพย์อาร์เอชบี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส โดยกำหนดให้นักลงทุนชำระเงินจองซื้อในวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2564

ส่วนผลประกอบการของบริษัท ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีกำไรที่มั่นคงจากโรงไฟฟ้าของบริษัท รวมถึงสัดส่วนภาระหนี้สินทางที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น D/E จำนวน 0.52 เท่า (ณ งวด 6 เดือนแรกปี 2564) อีกทั้งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้นั้นค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และทำให้มีผลกำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 5,706 ล้านบาท เติบโต 3.28% และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 2,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อ EBITDA ยังคงต่ำ อยู่ที่ประมาณ 2 เท่าเศษ

“บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะแสวงหาการลงทุนใหม่ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเติมเต็มผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา TPIPP ได้ชนะการประมูลในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะจำนวน 2 โครงการ ที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดนครราชสีมา โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ 7.92 และ 9.9 เมกะวัตต์ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทจะเข้าร่วมในการประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่หลายโครงการ และได้ยื่นเรื่องการขอทำสัญญาเสนอการขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ RDF (TG7) ขนาดกำลังการผลิตจำนวน 40 เมกกะวัตต์ (MW) คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้” นายภัคพล กล่าว

*******************************

- Advertisement -