บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
BANGKOK CHAIN HOSPITAL คาดกำไร 3Q64 ทุบสถิติปี 65 ลงจากฐานสูง
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +53%
Close Oct 19, 2021 Price (THB) 20.40
12M Target (THB) 31.20
Previous Target (THB) 31.20
What’s new?
- แนวโน้มกำไร 3Q64 คาดเติบโตโดดเด่น QoQ และ YoY ทุบสถิติรับผลบวกจากการระบาด COVID-19 ระลอก 4 ที่รุนแรง
- คาด 4Q64 แม้ COVID-19 เริ่มบรรเทาความรุนแรง แต่คาดยังเติบโตเด่น YoY
- วัคซีนโมเดอร์นำเข้ามาช้าและกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์รับฉีดไม่ได้กระทบ
- ปี 2565 คาดกำไรลดลงจากฐานสูง แต่ยังดีกว่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาดรุนแรง
Our View
- เรามองว่าราคาหุ้น BCH ปรับลงมากไป หลังตลาดมองว่าผลประกอบการจะพีคใน 3Q64 และเร่ิมขายทำกำไร แต่เรามองว่าผลประกอบการปี 2564 จะออกมาดีกว่าทีตลาดคาด ส่วนปี 2565 แม้กำไรจะชะลอตัวแต่ถือว่าเติบโตดีกว่าช่วงก่อน COVID-19
- เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงมูลค่าพื้นฐานท่ี 31.20 บาท อิงวิธี DCF ท่ี WACC ท่ี 7.3%
คาดทําไร 3Q64 ทุบสถิติ รับผลบวกจาก COVID-19 ระลอก 4
เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ BCH ใน 3Q64 ที่คาดว่าจะเติบโตทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเราคาดกําไรปกติที่ 2,740 ล้านบาท +139% QoQ และ +563% YoY หลักๆ มาจาก 1) รายได้จากการให้บริการ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดตรวจ COVID-19 จะลดลงจาก 2Q64 ที่ 5.8 แสนเดสใน 2Q64 เป็น 5.3 แสนเคส แต่มีรายได้จากการเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้น โดยจำนวนคนไข้ COVID-19 ที่รับรักษา COVID-19 เฉลี่ยต่อวันเพิ่มจาก 4,103 คนต่อวัน ในเดือน มิ.ย.เป็น 9,801 คนต่อวันในเดือน ก.ค. และ 14,207 คนต่อวันใน ส.ค. และการใช้บริการฮอทพิเทลเพื่อพักรักษาตัวเพิ่มขึ้น 2) รพ.ใหม่ที่เปิดผลประกอบการเป็นบวก เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญญประเทศ และเกษมราษฎร์ปราจีนบุรี Occupancy เต็ม 100% ทำให้ผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร ล่าสุดเมื่อ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดรพ.ใหม่ รพ.เกษมราษฎเวียงจันทร์เฟสแรกเปิด 110 เตียง 43 ห้องตรวจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด มีผู้ใช้บริการที่ค่อนข้างแน่น 200 คนต่อวัน ซึ่งทำให้มี EBITDA เป็นบวกตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดดำเนินการ 3) ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จากการบริการ COVID-19 ที่ดีกว่าการรักษาทั่วไป ส่งผลให้ EBITDA Margin เพิ่มจาก 3Q63 และ 2Q64 ที่ 33.5% และ 41.7% เป็น 51.5%
4Q64 แม้ COVID-19 เริ่มบรรเทาความรุนแรง แต่คาดเติบโตเด่น YoY
แนวโน้มใน 4Q64 คาดว่าผลประกอบการจะชะลอตัว QoQ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มบรรเทาความรุนแรงลง เคสตรวจและรักษา COVID-19 เริ่มลดลง แต่เทียบ YoY เราคาดว่ายังเติบโตโดดเด่น ส่วนกรณีวัคซีนโมเดอร์นาล่าช้าออกไปราว 15 วัน ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท ซึ่งล็อตแรกได้ขายหมดไปแล้วส่วนกรณีที่โรงพยาบาลจุฬาภร์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประกาศรับฉีดโมเดอร์นาเข็ม 3 ตัวกระตุ้นในราคา 555 บาทต่อโดส บริษัทมีการชี้แจงว่าไม่น่ากระทบต่อการขายในล็อต 2 ที่รอเข้ามาในปีหน้า ซึ่งวัคซีนที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เปิดให้จองเฉพาะสําหรับองค์กรนิติบุคคล ยังไม่ใช่รอบบุคคลทั่วไป และตัวโดสที่ฉีดปริมาณต่ำกว่าปกติที่รพ.เอกชนฉีดครึ่งหนึ่ง ราคาจึงถูกกว่า และบริษัทเชื่อว่ายังมีอุปสงค์วัคซีนอยู่เป็นจำนวนมาก ภาพรวมปี 2564 เราคาดกำไรปกติที่ 5,204 ล้านบาท +323% YoY
ปี 2565 คาดกำไรลดลงจากฐานสูง แต่ยังดีกว่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาดรุนแรง
เราคาดผลประกอบการปี 2565 ปรับลดลง 68%YoY เป็น 1,679 ล้านบาท เนื่องจากฐานที่สูง ซึ่งในปี 2564 สัดส่วนรายได้จากการให้บริการเกี่ยวกับ COVID-19 มากกว่า 50% ส่วนปี 2565 คาดว่ารายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ยังมีแต่จะลดลง ขณะที่จะได้ผลบวกจากการเปิดประเทศ คนไข้ต่างชาติจะเริ่มกลับมา รวมถึง pent up demand ของกลุ่มลูกค้าโรคซับซ้อนแม้เราคาดว่ารายได้ปี 2565 จะปรับลดลง 40% YoY แต่หากไปเทียบกับช่วงปี 2562-2563 คาดรายได้ยังเติบโต 17% และ 15% ตามลำดับ
แนะนํา “ซื้อ” ราคาลงเนื่องจากตลาดมองว่าพีค… แต่มองกำไรดีกว่าที่ตลาดคาด
ราคาหุ้น BCH ปรับลดลง 15% นับจากวันประกาศงบ 2Q64 และ 24% จากราคาสูงสุดในปีนี้ที่ 26.75 เนื่องจากตลาดมองว่าผลประกอบการจะพีคสุดใน 3Q64 ส่วนปี 2565 จะชะลอตัวจากฐานที่สูง แต่หากเราไปเทียบกับระดับกำไรช่วงปี 2562-2563 ถือว่ากำไรของ BCH ยังเติบโตดีกว่า ซึ่งมาจากทั้ง organic growth และ pent up demand เรามองว่าผลประกอบการปี 2564 จะดีกว่าที่ตลาดคาดราว 30% เบื้องต้นเราคงมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 ที่ 31.20 บาท อิงวิธี DCF WACC 7.3%