บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
กำไรจะผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q21
เราคาดกำไรของบริษัทใน 3Q21 จะอยู่ที่ 391 ล้านบาท (+6%YoY, -33QoQ) ซึ่งเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปีนี้ เนื่องจากไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักรุ่นใหม่ๆ
- เราคาดว่ารายได้ใน 3Q21 จะอยู่ที่ 9.0 พันล้านบาท (+0.8%YoY, -22%QoQ) โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY เกิดจากการเปิดตัวโทรศัพท์ Samsung Galaxy รุ่นใหม่ และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์จากการ Work from Home ที่ยืดเยื้อ
- เราเชื่อว่าผลผลการดำเนินงานใน 4Q21 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ iPhone 13 ที่เปิดตัวเมื่อ 8 ตุลาคม
- การขาดแคลนไมโครชิปจะกดดันการเติบโตของบริษัทไปจนถึงช่วง 2H22
เราคงคำแนะนํา “ถือ” เนื่องจากมี Upside ที่จำกัด โดยเราจะพิจารณาปรับประมาณการและมูลค่าเหมาะสมของเรา หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการภายในกลางเดือนพฤศจิกายน เพื่อประเมินสถานการณ์การขาดแคลนไมโครชิปทั่วโลก ที่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจนถึงช่วง 2H22
3Q21E Earnings Preview
- เราคาดว่า COM7 จะรายงานกำไร 3Q21 ที่ 391 ล้านบาท (+6%YoY, -33%QoQ) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้เนื่องจากไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักรุ่นใหม่ๆ
- เราคาดรายได้ใน 3Q21 จะอยู่ที่ 9.0 พันล้านบาท (+0.8%YoY, -22%QoQ) จากการเปิดตัวโทรศัพท์ Samsung Galaxy รุ่นใหม่ และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์จากการ Work from Home ที่ยืดเยื้อ
- เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 13.3% โดยที่ลดลงเล็กน้อย QoQ จากสัดส่วนยอดขายมือถือที่เพิ่มขึ้น
4Q21E Earnings Preview
- ใน 4Q21 เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ iPhone 13 ที่เปิดตัวเมื่อ 8 ตุลาคม
- รายได้ของบริษัทอาจไม่เติบโตทะลุยอดเดิมได้จนถึงในช่วง 2H22 ซึ่งทำมาได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 แตกต่างจากที่ตลาดคาดไว้
- เราจะทบทวนประมาณการกำไรและมูลค่าพื้นฐานหลังการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q21 เพื่อประเมินผลกระทบของการขาดแคลนไมโครชิปที่ส่งผลต่อบริษัท
การขาดแคลนไมโครชิปจะกดดันการเติบโตของบริษัทไปจนถึงช่วง 2H22
ปัญหาการขาดแคลนซิปทั่วโลกอาจจำกัดการเติบโตของผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟน
สถานการณ์การขาดแคลนไมโครชิปจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจนถึง 4Q22 เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัท จะมีการเติบโตที่จำกัดในช่วงเก้าเดือนระหว่าง 4Q21-2H22 โดย Canalys ได้รายงานว่าการจัดส่งสินค้าทั่วโลกลดลงแล้ว 6% YoY ใน 3Q21 จากการขาดแคลนส่วนประกอบ Nation Thailand และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานว่าสถานการณ์การขาดแคลนไมโครชิปจะคงอยู่ไปจนถึง 2Q22 ซึ่งอุปทานจะกลับมาสู่ภาวะปกติ (14 พฤษภาคม 2021)
รายได้ใน 4Q21 อาจเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้เป็นไตรมาสที่สูงสุด เราเชื่อว่าการขาดแคลนอุปทานอาจขัดขวางความสามารถในการเติบโตของบริษัท และไม่สามารถเติบโตได้สูงกว่า 4Q20 จนกว่าภาวะขาดแคลนจะสิ้นสุดลงในช่วง 2H22 โดย Apple รายงานว่าได้ลดการผลิตตามแผนการผลิต iPhone 13 ใหม่ลง 11% เป็น 80 ล้านเครื่องทั่วโลก ตามรายงานของ Bangkok Post (13 ตุลาคม 2021) เว้นแต่บริษัทจะสามารถจัดหาสินค้ามาได้เพียงพอ ทั้งนี้ บริษัทอาจประสบปัญหาในการเติบโตไปจนถึง 4Q22 หรือ 1Q23 เมื่อ iPhone รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัว ตามปกติผลิตภัณฑ์ Apple จะมีสัดส่วนราว 40% ของยอดขายรวมของบริษัท
Revenue Breakdown
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ประเภทแรก โทรศัพท์มือถือมีทั้งระบบ IOS และ Android ซึ่งคิดเป็น 53% ของรายได้รวมของ COM7 ในปี 2020
แล็ปท็อปคิดเป็น 12% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยแบรนด์ Apple mac book, Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo และ MSI
อุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ไอที และสินค้าเสริมที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะ ตัวอย่างเช่น Apple Watch ลำโพง หูฟัง แฟลชไดรฟ์ เมาส์ คีย์บอร์ด ที่ชาร์จมือถือ และเคสโทรศัพท์
แท็บเล็ต คิดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมด บริษัทจำหน่ายแท็บเล็ตหลากหลายแบรนด์ประกอบด้วย Apple, Lenovo, Acer, ASUS และ Microsoft
เดสก์ท็อป (คิดเป็น 2% ของรายได้รวม) ประกอบด้วย Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo บริการ (คิดเป็น 1% ของรายได้รวม) เป็นการขายซิมการ์ดใน True Shop และ iCare สำหรับผลิตภัณฑ์ Apple
