บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

SRI TRANG-AGRO INDUSTRY ยางพารายังดีต่อและมีสัญญาณบวกเพิ่ม

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +28.6%

Close Oct 20, 2021 Price (THB) 35.00

12M Target (THB) 45.00

Previous Target (THB) 52.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 3,829 ลบ. (-23.6%QoQ, +65.3% YoY) ลดลง QoQ จากธุรกิจถุงมือยางที่ราคาขายเฉลี่ยปรับลงราว 35% จึงส่งผลต่อรายได้และ GPM
  • ธุรกิจยางธรรมชาติดีขึ้นต่อเนื่องในด้านปริมาณขายจากอุปสงค์ของโลกที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แม้ราคาขายเฉลี่ยจะปรับลงเล็กน้อย
  • คาดปันผลจ่าย 3Q64 ที่ 1.20 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 3.4%

Our view

  • เราคงมุมมองบวกต่อธุรกิจยางธรรมชาติที่คาดยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2565
  • เราปรับประมาณการปี 2564 และ 2565 ลง 9% และ 16% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนธุรกิจถุงมือยางที่ปรับฐานกำไรสู่ระดับปกติเร็วกว่าที่ประเมินไว้
  • ผลของการปรับประมาณการทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 45.00 บาท มี Upside gain 28.6% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER64 และ PER65 ที่ต่ำ เพียง 3.0 เท่า และ 5.8 เท่า ตามลำดับ

ยางธรรมชาติดีต่อ ขณะที่ถุงมือกำลังปรับฐานสู่ระดับปกติ

ผลประกอบการธุรกิจถุงมือยางคาดลดลง QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงราว 35% จากสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกที่ฟื้นตัว แม้ชดเชยบางส่วนด้วยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็นราว 7,000 ล้านชิ้น จาก 2Q64 ที่ 5,700 ล้านชิ้น แต่ยังต่ำกว่าเป้าที่ 8,000 ล้านชิ้น จากปัญหาขาดแคลนและเริ่มมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น ส่วนธุรกิจยางธรรมชาติยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณขายที่ดีขึ้น 3%QoQ เป็น 3.21 แสนตัน จากอุปสงค์ล้อยางที่ยังสูงทั้งในเอเชียและยุโรป และแม้ราคาขายเฉลี่ยในรูป USD จะปรับลงเล็กน้อยราว 5% แต่จะถูกชดเชยบางส่วนด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทําให้โดยรวมคาดราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติคาดจะทรงตัว QoQ ได้ที่ 54 บาท/กก.

โดยรวมดาดรายได้ของ STA ที่ 2.8 หมื่นลบ. (-4.8%QoQ, +72.0%YoY) และ GPM ที่ 32.0% ลดลงจาก 2Q64 ที่ 36.7% จากสัดส่วนรายได้ และ GPM ของธุรกิจถุงมือยางที่ลดลง ขณะที่ SG&A/Sales คาดที่ 6.0% คาดกำไรปกติ 3Q64 ของ STA ที่ 3,829 ลบ. (-23.6%QoQ, +65.3%YoY)

4Q64 ธุรกิจยางพารามีสัญญาณบวกเพิ่ม…ปรับประมาณการลง

เราประเมินผลประกอบการของ STA ใน 4Q64 เบื้องต้นที่ 2,500 +/- ลบ. ยังมีปัจจัยกดดันหลักจากราคาขายเฉลี่ยของถุงมือยางที่ยังมีแนวโน้มลดลงต่อ แต่คาดจะปรับลงในอัตราที่ชะลอลง ส่วนธุรกิจยางธรรมชาติคาดผลประกอบการจะทำจุดสูงสุดของปี จากการกลับมาเติบโตต่อทั้งด้านปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ย หลังเริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นจากอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่ปัญหาการขาดแคลนชีพเริ่มคลี่คลายช่วยหนุนการผลิต, สต๊อกยางพาราของจีนมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสที่จีนจะกลับมาเพิ่มจำนวนสต๊อกยางพาราอีกครั้ง หนุนราคายางให้สูงขึ้นสถานการณ์การส่งออกทางเรือที่เริ่มคลี่คลายหนุนทั้งการส่งออกยางพาราและถุงมือยาง และอานิสงส์ของค่าเงินบาทเทียบ USD ที่ยังทรงตัวระดับสูงกว่า 33 บาท/USD ช่วยหนุนผลประกอบการของ STA

เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2564 และ 2565 ลง 9% และ 16% ตามลำดับเป็น 17,860 ลบ. และ 9,329 ลบ. ตามลำดับ โดยสาเหตุหลักจากราคาขายถุงมือยางเฉลี่ยที่ปรับฐานเร็วกว่าที่เราประเมินไว้ เราจึงปรับประมาณการธุรกิจถุงมือยางให้รัดกุมยิ่งขึ้น และคาดผลประกอบการของธุรกิจถุงมือยางจะกลับสู่ระดับปกติที่ควรจะเป็นในปี 2565 เป็นต้นไป

ราคาปัจจุบันมี Downside risk จํากัดแล้ว … คงคําแนะนํา “ซื้อ”

ผลของการปรับราคาเหมาะสมของ STGT ลงเป็น 39.00 บาท และการปรับประมาณการของ STA ลง อิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธีรวมมูลค่าของแต่ละธุรกิจ (SOTP) ได้มูลค่าเหมาะสมใหม่ของ STA ที่ 45.00 บาท ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER64 และ PER65 ต่ำเพียง 3.0 เท่า และ 5.8 เท่า ตามลำดับ คาดเงินปันผลจ่าย 3Q64 และ 4Q64 ที่ 1.20 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 3.4% ที่ด้วยราคาเหมาะสมใหม่ยังมี Upside gain 28.6% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาวหรือคาดหวังเงินปันผล

- Advertisement -