บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

CENTRAL PATTANA 3Q64 กำไรชะลอตัว … คาดพลิกฟื้นใน 4Q64

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +9.4%

Close Oct 21, 2021 Price (THB) 58.50

12M Target (THB) 64.00

Previous Target (THB) 61.00

What’s new?

  • การเปิดประเทศตอนรับนักท่องเที่ยวในเดือนพ.ย. และการผ่อนคลายมาตรการภาครัฐและนโยบายผลักดันกำลังซื้อเพิ่มในช่วงท้ายของปี ส่งผลต่อการฟื้นตัวของกำไรในช่วง 4Q21 และต่อเนื่องไปปี 2565
  • แผนการเข้าซื้อหุ้นใน SF ทำได้ตามคาด มีสัดส่วนการถือหุ้นหลังทำ Tender offer 96.24% โดยบริษัทมีแผนนำ SF ออกจากตลาดหลักทรัพย์ในระยะถัดไป

Our view

  • 3Q64 ผลประกอบการกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 และมาตรการ Lockdown ส่งผลกระทบในทุกธุรกิจคาดมีกำไรปกติราว 261 ล้านบาท (-79.3% QoQ, -89.0% YoY)
  • ปรับราคาเหมาะสมปี 2565 เป็น 64.00 บาท (รวมสัดส่วนการถือครองที่เพิ่มขึ้นในการลงทุน SF)
  • ปัจจัยเสี่ยง: การแพร่ระบาด COVID-19 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม การแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ / เศรษฐกิจชะลอตัวกดดันกำลังซื้อ

คาดกำไร 3Q64 ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

เราคาดกําไรปกติ 3Q64 ของ CPN ที่ 261 ล้านบาท (-79.3% QoQ, -89.0% YoY) รายได้อยู่ระดับที่ 4.5 พันล้านบาท (-24.1% QoQ, -38.0% YoY) ธุรกิจศูนย์การค้า Traffic ผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเฉลี่ย 3Q64 อยู่ที่ 40% ของผู้ใช้บริการระดับปกติ ผลกระทบ Lockdown กระทบราว 20 ศูนย์การค้าในส่วนของ Occupancy rate อยู่ที่ 91% ทรงตัวจากไตรมาส 2Q64 การให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ให้เช่าศูนย์การค้าเฉลี่ยราว 50 – 60% เทียบกับไตรมาส 2Q64 ที่ให้ส่วนลดค่าเช่าศูนย์การค้าเฉลี่ยราว 40% รายได้ธุรกิจศูนย์การค้าลดลงราว 30% QoQ ธุรกิจศูนย์อาหารคาดว่ารายได้จะลดลงราว 40% QoQ ธุรกิจโรงแรมรายได้ปรับตัวลดลง 20% QoQ โดย Occupancy rate โดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงมาอยู่ราว 17% เทียบกับไตรมาส 2Q64 ที่ระดับ 22% ธุรกิจ Residential คาดรายได้ปรับตัวลดลง 15% QoQ การโอนโครงการต่อเนื่องในช่วง 3Q64 ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ และจากผลกระทบการลดค่าเช่าส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 28.2% เมื่อเทียบกับใน 2Q64 และ 3Q63 ที่ทำได้ 40.2% และ 49.3% ขณะเดียวกัน บริษัทมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มหลังออกหุ้นกู้ และกู้ยืมเงินจากธนาคารจากการเข้าลงทุนใน SF ทั้งนี้ การรวมผลประกอบการ 1 เดือนของ SF ในงบการเงินรวม (consolidate) ของ CPN ยังไม่มีนัยสำคัญ และใน 3Q64 มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีเพิ่มราว 125 ล้านบาท จากการซื้อขายหุ้นภายในกลุ่มบริษัท

โควิตระลอก 4 กระทบกำไรไตรมาส 3Q64 แต่คลี่คลายใน 4Q64

แม้ว่าใน 3Q64 จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดระลอก 4 ที่มีระดับมากกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน และภาครัฐได้ประกาศมาตรการควบคุมโรค (Lockdown) ในเขตพื้นที่สีแดง ซึ่งส่งผลให้ศูนย์การค้าสามารถเปิดให้บริการได้เพียงบางส่วน กระทบต่อกำไร 3Q64 อย่างไรก็ดี ใน 4Q64 จากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มมีจำนวนตัวเลขที่ลดลง การฉีดวัคซีนคืบหน้า และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ในเดือนตุลาคมยอด Traffic ของศูนย์การค้าอยู่ราว 70 – 80% ของระดับปกติ ส่งผลต่อการให้ส่วนลดค่าเช่าที่ให้กับลูกค้าลดลงเช่นกัน ดังนั้นเราคาดว่ากำไรของ CPN ในช่วง 4Q64 จะมีการฟื้นตัว และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเป็นบวกต่อศูนย์การค้าที่เป็น Tourist malls ในระยะถัดไป ขณะที่การรับรู้รายได้จาก SF เริ่มบันทึกเข้ามาเต็มไตรมาสหลังการเข้าซื้อหุ้นได้ตามคาด

ปรับราคาเหมาะสมเป็น 64 บาท

แนะนำ ซื้อ เราปรับราคาเหมาะสมปี 2565 เป็น 64.00 บาท (ได้รวมผลการ Tender offer หุ้น SF ในประมาณการ) ภายหลังการทำ Tender offer หุ้น SF ทาง CPN มีสัดส่วนการถือหุ้น SF เพิ่มขึ้นเป็น 96.24% เราจึงมีการปรับกำไรปกติในงบการเงินรวมเพิ่มขึ้น เราคาดกำไรปกติ 2564/65 จะเพิ่มเป็น 6.7 พันล้าน (-1.1% YoY) และ 9.3 พันล้าน (+39.7% YoY) ตามลำดับ การขยายศูนย์การค้ายังคงเป็นไปตามแผนเตรียมเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งที่ศรีราชา จ.ชลบุรี วันที่ 27 ต.ค. และ จ.อยุธยา วันที่ 30 พ.ย. ตอบรับการฟื้นตัวและการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดย CPN ยังมีแผนการขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอในการรองรับ โดยมี Net D/E ที่ 0.8 เท่า บริษัทเตรียมประกาศงบการเงินของ 3Q64 ในวันที่ 8 พ.ย.

- Advertisement -