ตลาดหุ้นวานนี้

SET +1.77 จุด ปิดที่ 1,636 จุด ปริมาณซื้อขาย 7.9 หมื่นลบ. นักลงทุนขายลดความเสี่ยงลงก่อน 2 การประชุมสำคัญ ECB 28 ต.ค. และ Fed 2-3 พ.ย. คาดว่าจะปรับลด QE ส่งผลให้ Fund flow และดัชนีผันผวน

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัว 1,625 – 1,645 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือ 84 US/Barrel ตาม Demand เพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว รวมถึงแรงเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่คาดงบ 3Q21 เติบโต อย่างไรก็ตามแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม ECB 28 ต.ค. และ FED 2-3 พ.ย. ที่คาดว่าจะเริ่มลดการใช้ QE ลงจะทำให้ Fund flow ผันผวนและกดดันดัชนี

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP TOP PTTGC SPRC BCP ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นระดับสูง

กลุ่มกำไร 3Q21 เติบโต GULF CHG BCH BDMS KCE  JMT PSL  TTA  BANPU LANNA

  • กลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  HMPRO CPALL TNP  KK

หุ้นแนะนำวันนี้

{C}      HMPRO (ปิด 14.5 ซื้อ/เป้า 16.5) ผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วตั้งแต่ 3Q21 และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรตั้งแต่ 4Q21 สะท้อนผ่าน SSSG ที่เริ่มกลับมาเป็นบวก 10-20% ตั้งแต่เดือน ก.ย. เทียบกับ 3Q21 ติดลบ 10-15% จากการเปิดเมือง (70% ของรายได้มาจากกรุงเทพและหัวเมืองท่องเที่ยว)

  • TOP (ปิด 56.75 ซื้อ/เป้า 61 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์ทรงตัวในระดับสูง 7-8$/bbl เทียบกับ 1H21 เฉลี่ยที่ 1-2 $/bbl และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงปลายปีและ 1Q22 หลังหลายประเทศเปิด ศก. และสภาพอากาศที่หนาวเย็น

บทวิเคราะห์วันนี้

SCGP (ปิด 64 ถือ/เป้า 69), SPALI (ปิด 22.3 ถือ/เป้าใหม่ 23.4 เดิม 22.4)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ย. โตแรงเกินคาดจาก ศก.โลกฟื้นตัวและเงินบาทอ่อนค่า: ก.พาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกเดือน ก.ย.ขยายตัว 17.11%yoy ดีขึ้นจากเดือน ส.ค.ที่ขยายตัว 8.93%yoy และดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 11-12% เป็นผลจาก ศก.โลกฟื้นตัวและได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่่อ่อนค่า กลุ่มสินค้าที่ยอดส่งออกโตแรง อาทิ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, อาหารสัตว์เลี้ยง, ยางพารา และ มันสำปะหลัง
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ (+1.1%) ปิดที่ระดับ 84.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดยังได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจากกิจกรรม ศก.กลับมาฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 อากาศที่หนาวเย็นในจีนราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่แพงผลักดันให้โรงไฟฟ้าเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงแทน แต่อุปทานน้ำมันดิบยังตึงตัวเนื่องจาก OPEC+ ปฏิเสธที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตตามที่หลายประเทศเรียกร้อง
  • (+/-) พรุ่งนี้ติดตาม ECB meeting คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ตามเดิม: แม้อัตราเงินเฟ้อล่าสุดของยูโรโซนจะพุ่งแตะระดับ 3.4% สูงสุดในรอบ 13 ปี และมากกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ 2% แต่เป็นปัจจัยชั่วคราวเราคาดว่า ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% ตามเดิม แต่วงเงิน QE 1.85 ล้านล้านยูโร เป็นไปได้ที่ ECB จะทยอยลดวงเงินในการเข้าซื้อและยุติโครงการในวันที่ 31 มี.ค. ปี หน้า (ECB meeting 28 ต.ค. 2021)
- Advertisement -