บล.ทรีนีตี้:

โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ – HMPRO

ประกาศกำไร 3Q64 ต่ำเป็นประวัติการณ์ ปรับประมาณการลง

  • กำไร 3Q64 ลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากรายได้และรายได้ค่าเช่าลดลงหนักจากการ Lockdown การปิดสาขาชั่วคราว การลดและยกเว้นค่าเช่า
  • คาด 4Q64F ฟื้นกลับมา Lockdown เริ่มคลาย และเป็น High Season
  • ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 และ 2565 ลดลง เพื่อให้สะท้อนภาพ 9M64 ที่ผ่านมา ผลกระทบด้านค่าเช่า และการแข่งขันที่สูงขึ้น
  • คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 16.16 บาท (DCF) (เดิม 17.20 บาท) ราคาปัจจุบันคิดเป็น Forward P/E ราว 32 เท่า ยัง Laggard กลุ่มค้าปลีกที่ราว 45 เท่า

กำไรไตรมาส 3/2564 ลดลงทั้ง QoQ และ YoY

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 870 ล้านบาท (-39.2% QoQ, -37.9% YoY) ลดลงทั้ง QoQ และ YoY ปัจจัยจากลดลงของรายได้ รายได้ค่าเช่า อันเป็นผลจากช่วงฤดูกาลในหน้าฝน และผลกระทบจากการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • รายได้จากการขายเท่ากับ 13,170 ล้านบาท (-18.5% QoQ, -12.6% YoY) โดยมี SSSG ที่ราว -13% เนื่องจากเป็นหน้าฝนและมีการปิดสาขาชั่วคราวเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ แบ่งเป็นธุรกิจโฮมโปรในประเทศ 29 สาขา ธุรกิจเมกาโฮม 4 สาขา ปิดตั้งแต่ 20 ก.ค. -31 ส.ค. 2564 โฮมโปรมาเลเซีย 7 สาขา ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. -22 ส.ค. 2564 ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งรายได้จากการขาย และรายได้ค่าเช่า แม้ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมารัฐบาลจะมีนโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบ แต่กำลังซื้อยังไม่กลับมาเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี การขายผ่านช่องทางออนไลน์มีการเติบโตสูงถึง 120% YoY คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 9.4% ของยอดขายในไตรมาส 3/2564 แต่ยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากการปิดหน้าร้านได้
  • รายได้ค่าเช่า 217 ล้านบาท (-28.2% QoQ, -55.5% YoY) จากการยกเว้นและปรับลดค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าที่ยังได้รับผลกระทบจากโควิด -19 เนื่องจากตามคำสั่งรัฐบาลอนุญาตให้สามารถเปิดธุรกิจได้บางประเภทเท่านั้น และไม่มีรายได้จาก Homepro Expo เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  • อัตรากำไรขั้นต้น 25.2% (-0.6% YoY) ลดลงจากสัดส่วน Product Mix ยอดขายของสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่กลุ่ม Soft line ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมีสัดส่วนยอดขายลดลง
  • SG&A ต่อยอดขาย 20.8% (+0.7% YoY) เพิ่มขึ้นเนื่องจากการลดลงของรายได้มีอัตราเร่งที่สูงกว่าการลดลงของค่าใช้จ่าย
  • สรุปกำไรงวด 9M2564 จำนวน 3,665 ล้านบาท (+1.5% YoY) คิดเป็นสัดส่วนราว 64% ของประมาณการทั้งปีที่ 5,741 ล้านบาท จึงมีการพิจารณาปรับประมาณการกำไรปี 2564 ลงราว 15% เป็น 5,004 ล้านบาทและปี 2565 ลงราว 3% เป็น 5,983 ล้านบาท
- Advertisement -