บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Major Cineplex Group ประมาณการ 3Q64F: มีรายการพิเศษมาเป็นตัวช่วย

Event

ประมาณการ 3Q64F

Impact

ผลประกอบการจะต่ำสุดใน 3Q64 แต่มีรายการพิเศษมาช่วยหนุนให้มีกำไรสุทธิ

เราคาดว่า MAJOR จะมีผลขาดทุนหลัก 428 ล้านบาทใน 3Q64 จากที่ขาดทุน 190 ล้านบาทใน 2Q64 และขาดทุน 119 ล้านบาทใน 3Q63 โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันผลประกอบการใน 3Q64 ได้แก่ รายได้ที่ลดลงเหลือ 190 ล้านบาท (-56% QoQ, -79% YoY) ซึ่งเป็นการลดลงของรายได้ทุกประเภท โดยเฉพาะยอดขายตั๋วและยอดขายเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ซึ่งคาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 10 ล้านบาท (+93% QoQ,-97% YoY) และ 100 ล้านบาท (-20% QoQ, -36% YoY) เท่านั้น แต่เราคาดว่า บริษัทจะมีกำไรสุทธิใน 3Q64 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษ 2.2 พันล้านบาท (กําไรจากการขายหุ้นบมจ. สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF.BK / SB TB), ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการแพ้คดีในศาล 300 ล้านบาท และตั้งสำรองสำหรับรายการลูกหนี้ 30 ล้านบาท)

คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นตั้งแต่ 4Q64F เป็นต้นไป

เราคาดว่าผลประกอบการจะค่อยๆดีขึ้นตั้งแต่ 4Q64F เป็นต้นไป เนื่องจาก i) สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้นทำให้มีการกลับมาเปิดบริการโรงภาพยนตร์ทุกแห่งได้อีกครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2564 ii) มีภาพยนตร์โปรแกรมเด็ดจากทั้งฮอลลีวู้ดและภาพยนตร์ไทยรอเข้าโรงอยู่ iii) คาดว่ายอดขายเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยวจะเพิ่มขึ้นตามการกลับมาเปิดบริการโรงภาพยนตร์ และซุ้มขายเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยว iv) กลับมามีรายได้จากค่าโฆษณาอีกครั้ง ทั้งนี้ภาพยนตร์เรื่อง Black Widow, No time To Die, Shang Chi และ Fast & Furious 9 ทำรายได้ไปประมาณ 120 ล้านบาท ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2564

ปรับลดประมาณการปี 2564 สะท้อนการดำเนินงานอ่อนแอใน 9M64 แต่คงประมาณการปี 2565 ตามเดิม

เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอในงวด 9M64 ซึ่งเราคาดว่าจะมีผลขาดทุนหลัก 738 ล้านบาท ในขณะที่โปรแกรมหนังดังในเดือนตุลาคม 2564 ไม่น่าจะทำรายได้มากอย่างที่คาดหวัง เราจึงปรับประมาณการผลขาดทุนหลักในปี 2564 จากเดิม 489 ล้านบาท เป็น 777 ล้านบาท เนื่องจากเราปรับลดสมมติฐานผู้ชมภาพยนตร์ลง 56% เหลือ 6.7 ล้านคน ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าบริษัทจะพลิกเป็นมีกำไรหลักได้ในปี 2565 ที่ 588 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น และมีโปรแกรมหนังเด็ดจากทั้งฮอลลีวู้ดและภาพยนตร์ไทยรอเข้าโรงฉาย

Valuation & Action

เรายังคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ไว้ที่ 26.75 และคงคำแนะนำ ซื้อ

Risks

รายได้จากโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาดไว้

- Advertisement -