บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Ratch Group เข้าไปลงทุนใน Sahacogen (Chonburi) PCL

Event

RATCH ประกาศว่าได้เข้าไปลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น สัญญาจองซื้อหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) ของ Sahacogen (Chonburi) PCL (SCG.BK / SCG TB)

Impact

เพิ่มโรงไฟฟ้าก๊าซ และชีวมวลเข้ามาในพอร์ตของบริษัท

RATCH ประกาศผนึกพันมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมพัฒนากับ Saha Group ผ่านการลงทุนใน SCG ซึ่งมีสินทรัพย์ดังนี้ i) โรงไฟฟ้า combined cycle cogeneration ขนาด 214MW ii) โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.6 และ 7.5MW ซึ่ง RATCH ถือหุ้น 51% การลงทุนในครั้งนี้แบ่งเป็น i) การทำสัญญาซื้อหุ้น 34 ฉบับระหว่าง RATCH กับผู้ถือหุ้น 34 ราย จำนวนทั้งหมด 384,789,131 หุ้น และ ii) การทำสัญญาจองซื้อหุ้นใหม่ 208,695,652 หุ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ RATCH ได้หุ้นรวม 593,484,783 หุ้น ที่ราคา 5.75 บาท/หุ้น หรือเท่ากับ 3,413 ล้านบาท

ก้าวต่อไปคือการทํา tender offer

RATCH จะทำ tender offer เพื่อเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือของ SCG เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องการทำ Tender Offer หลังจากที่ SCG จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจองซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 570,210,869 ล้านหุ้น หรือ 49% ที่ราคา 5.75 บาท/หุ้น หรือเท่ากับ 3,279 ล้านบาท

ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะต้องเพิ่มทุนอีก

ในการทำธุรกรรมนี้ RATCH จะใช้เงินสดในมือร่วมกับเงินกู้จากสถาบันการเงิน โดยเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 RATCH มีเงินสดในมือประมาณ 4,439 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.17x หลังการเพิ่มทุนตามสมมติฐานของเรา (ซึ่งต่ำกว่า debt covenant ที่ 1.3x) โดยเราคาดว่าบริษัทจะระดมทุนจากการเพิ่มทุนได้ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในกรณีสุดโต่งที่มูลค่าการลงทุนอาจจะขึ้นไปถึง 6,691 ล้านบาท โดยใช้หนี้สินต่อทุนที่ 50:50 มูลค่าของหนี้สินและทุนจะอยู่ที่ 3,345 ล้านบาท ดังนั้นเราจึงไม่ห่วงว่า RATCH จะมีปัญหาทางการเงินแม้จะเข้าซื้อหุ้นทั้ง 100% ใน SCG เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือ และยังมีเม็ดเงินจากการเพิ่มทุนอีก

Valuation & Action

เราใช้สมมติฐานว่า RATCH จะรับรู้รายได้ equity income จาก SCG ใน 1Q65 โดยต้นทุนของโครงการ (Project cost) อยู่ที่ 3,413 ล้านบาท และใช้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 50:50 เราคาดว่า SCG จะส่งผลกำไรมาที่ RATCH ปีละ 100 ล้านบาท ในปี 2565 ดังนั้น ราคาที่ RATCH เข้าไปซื้อ SCG จึงคิดเป็น P/E ที่ 17.1x อย่างไรก็ตาม บริษัทยังตั้งเป้าจะสร้าง Synergy ร่วมกับ Saha Group ในการพัฒนาธุรกิจ Solar rooftop อีก โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตไว้ที่ 53MW ซึ่งจะเป็น upside ในอนาคต เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 59.75 บาท (ยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจาก SCG)

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้าและความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่

- Advertisement -