Our View? ” อ่อนแอก็แพ้ไป..”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,610 / 1,600 และแนวต้านท่ีบริเวณ 1,620 / 1,630 เรามองการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ โดยเมื่อคืนน้ีสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. ยังคงสามารถฟื้นตัวกลับข้ึนได้ต่อ +0.48 ดอลลาร์ ปิดท่ี 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรล (+0.57%) พยายามข้ึนทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งจากความคาดหวัง OPEC+ จะยังคงแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่ 4 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. คาดจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ข้ึนได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการที่จีนโดยเร่ิมระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อเพิ่มอุปทานให้ตลาด คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาน้ำมันได้ รวมทั้งยังต้องติดตามการประชุม OPEC+ ในวันที่ 4 พ.ย. อย่างใกล้ชิด หาก OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมันและหุ้นในกลุ่มพลังงานได้อ่อนตัวลงได้อีกครั้ง
ขณะท่ีเราคาดว่าตลาดยังคงแกว่งตัวรอดูผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการประชุม FOMC วันที่ 2-3 พ.ย. นี้ คาด FED จะประกาศปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทันทีหลังจบการประชุม อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาว เวล ในการปรับใช้นโยบายทางการเงินต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นการข้ึนดอกเบี้ยในระยะถัดไป และ Dot- Plot หลังจบการประชุมดังกล่าว โดยหากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า FED มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด โดยล่าสุด CME FED Watch tool บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ว่า FED มีแนวโน้ม 50.0% จะปรับขึ้นดอกเบี้ยท่ีระดับ 0.25% ในเดือน มิ.ย.’65 จากคาดการณ์เดิมที่โอกาส 15.0% เรามองเป็นปัจจัยกดดันทิศทางกระแสเงินทุนส่วนเกินที่จะเริ่มชะลอตัวลง กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศเราคาดตลาดยังคงให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ต่อไป โดยเราคาดว่าหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC และ BGRIM) คาดผลประกอบการ 3Q’64 จะออกมาเติบโตท้ัง QoQ และ YoY คาดอาจเป็นการ Rotation เข้ากลุ่มดังกล่าวได้
ขณะที่คาดว่าการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวตั้งแต่วันน้ี เรามองหุ้นในกลุ่ม Re-Opening Theme หลักโดยเฉพาะท่องเที่ยว-โรงแรม และการบินปรับตัวรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปพอสมมควรแล้ว ขณะท่ีเราแนะนำติดตามการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta+ คาดอาจจะกดดันหุ้นในกลุ่มดังกล่าวอ่อนตัวลงปรับฐานใหม่ได้
รวมทั้งเราแนะนำติดตามแนวโน้มการออก พรก. กู้เงินรอบใหม่ของรัฐ เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีหน้าหลังเหลือวงเงินกู้จาก พรก. กู้เงินล่าสุดที่ 5 แสนล้านบาทในปัจจุบันเหลือกรอบวงเงินอยู่เพียงราว 2.6 แสนล้านบาท คาดจะไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี’ 65 เรามองหากรัฐกู้เพิ่มมองจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คาดจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และธนาคารฟื้นตัวข้ึนแบบค่อยเป็นค่อยไปได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “NEX”
ซื้อเล่นรอบ แนวรับ 9.30 / 9.10 Target 10.00 / 10.50 Stop <9.00
