ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index ปรับบวกได้ในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาและปิดลบถึง 9.65 จุด อ่อนแอกว่าที่เราประเมิน สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 635 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่องอีก 3.6 พันลบ. (และ Short Index Futures สูงถึง 2.4 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index มีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ หลังจากปิดหลุดแนวรับย้อย 1,620 จุด โดยมีแนวรับหลักอยู่ที่ 1,600 +-จุด โดยรวมบรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ตลาดยังคงรอจับตาปัจจัยสำคัญ คือ การประชุม FED กลางสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดประกาศเริ่มลด QE US$ 1.5 หมื่นล้านต่อเดือน และมุมมองเงินเฟ้อใน 1H22  รวมถึงการประชุม OPEC+ ว่าซาอุดิอาระเบียจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมหรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามอยู่ที่ผลประกอบการ 3Q21 ของบริษัทจดทะเบียน และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวหลังเริ่มเปิดประเทศแล้ว เรายังมองหุ้นพลังงานสะอาดและเทคโนโลยี ระยะนี้ยังได้อานิสงส์จากการประชุม COP26 กลยุทธ์มองจังหวะดัชนีลงทดสอบ 1,600 จุด หรือต่ำกว่าเป็นโอกาสทยอยสะสมกลุ่ม Value และ Reopening Play โดยเฉพาะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับต่ำและ Laggard SET Index เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมี COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น อสังหาฯ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว รับเหมาฯ

กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q21 แข็งแรงและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // ยังลงทุนในหุ้น Value และ Reopening Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ย.: CHG, FSMART, GPSC, JWD, KCE

หุ้นเด่นวันนี้: SMT

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8 บาท
  • แนวโน้ม 3Q21 คาดยังแข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ครอบคลุมทั้งปีแล้ว และคาดเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องใน 4Q21 เช่นเดียวกับ Margin ที่เติบโตตาม Utilization Rate
  • เราคาดกําไรปี 2021-2022 +175% Y-Y และ +33% Y-Y ตามลำดับ และเป็นกลุ่มที่คาดได้อานิสงส์ระยะยาวจากเทรนด์ Digital ที่เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนประเด็นความกังวลน้ำท่วมปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมาก
  • แนวรับ 6 บาท แนวต้าน 6.40-6.50 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$ 431 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$ 245 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทยและเวียดนาม US$ 108 ล้านและ US$ 56 ล้าน ตามลำดับ มีเพียงอินโดนีเซียที่เม็ดเงินไหลเข้าบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก และจับตาดูผลการประชุม FED คืนวันพุธนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) REIT Focus ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา PF&REIT +4% Outperform SET Index ที่ +1% เป็นไปตามที่เราประเมิน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ Laggard มาก ขณะที่แนวโน้มเดือน พ.ย. คาดว่ายังมีโอกาสปรับตัวดีต่อโดย Theme การลงทุนยังอยู่ที่การฟื้นตัวหลังคลาย Lockdown และเปิดประเทศภาคการขนส่งและ Logistic ที่แข็งแกร่งรวมถึงกระแส Metaverse ในอนาคตโดยเลือก Top Pick 5 กองทุน ได้แก่ AIMIRT ALLY DIF HREIT FTREIT

(+) ADVANC กำไรปกติ 3Q21 Flat Q-Q, +2% Y-Y ดีกว่าคาดเล็กน้อย โดยมาจากรายได้ธุรกิจ Mobile ที่ชะลอตัวน้อยกว่าคาด แม้จะถูกกระทบจาก COVID-19 และ Lockdown ขณะที่ FBB ยังโตแข็งแกร่ง คาดผลการดำเนินงานทยอยฟื้นตัวใน 4Q21-2022 ระยะยาวได้ประโยชน์จากการใช้งาน Data ที่สูงขึ้น รวมถึงการมาของ Metaverse คงราคาเป้าหมาย 220 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) FSMART เราคาดกำไร 3Q21 -20% Q-Q, -27% Y-Y จากผลของการ Lockdown และปิดแคมป์คนงาน กระทบต่อกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นลูกค้าหลัก อย่างไรก็ตาม คาดทยอยฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้นไป ส่วนตู้เต่าบินจะเป็น New S-Curve โดยมีแผนขยายปีละ 1 หมื่นตู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า เราคาดกําไรปี 2021-2024 เติบโต +39% CAGR ประเมินราคาเป้าหมายจากตู้บุญเติม 4.70 บาท และตู้เต่าบิน 8.80 บาท ได้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 13.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) SONIC คาดกำไรสุทธิ 3Q21 ทำ New High +33% Q-Q, +384% Y-Y ตามฤดูกาลของการส่งออกและค่าระวางเรือที่ยังสูงขึ้น แนวโน้มธุรกิจขนส่งทางเรือใน 4Q21 อาจชะลอ แต่ชดเชยได้จากการเติบโตของธุรกิจลิสซิ่งรถบรรทุกเราปรับกำไรปี 2021 ขึ้นเป็น +218% Y-Y แต่คงประมาณการปี 2022-2023 ที่ -10% Y-Y และ +3% Y-Y โดยกำลังจะผ่านช่วงเติบโตก้าวกระโดดส่วนราคาเป้าหมายปี 2022 อยู่ที่ 4.60 บาท (Fully diluted) Upside ต่ำกว่า 10% ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จากเดิมซื้อ

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 94.28 จุดหรือ 0.26% ปิดที่ 35,913.84 จุด จากการปรับขึ้นของกลุ่มพลังงานและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดส สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้นับตั้งแต่วันที่ 8 พ. ย. นี้

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังมีคาดการณ์ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมท่ามกลางติดตามธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเช้านี้

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 48 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรล จากอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังหลายประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจ รวมถึงคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมสัปดาห์นี้

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 11.9 ดอลลาร์หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,795.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 979.52 / -2.62

- Advertisement -