บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Indorama Ventures ประมาณการ 3Q64F: เป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่กำไรจะออกมาดี

Event

ประมาณการ 3Q64

Impact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q64F จะเพิ่มขึ้นถึง 1,423% YoY แต่ลดลง 31% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ IVL ใน 3Q64 จะอยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท (+1,423% YoY, -31% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY จะเป็นเพราะ spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทุกตัวของ IVL ดีขึ้นจากระดับที่ต่ำใน 3Q63  ซึ่งเป็นช่วงที่ถูกกระทบจาก COVID-19 ที่ระบาดหนักทั่วโลกในปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะ spread ของ PET ในเอเชีย, MTBE ในสหรัฐและ fiber ลดลงใน 3Q64 โดย spread ของ PET ในซีกโลกตะวันออกลดลง 19% QoQ เหลือ US$ 127/ton เนื่องจากผ่านช่วงที่อุปสงค์สูงตามฤดูกาลไปแล้วใน 2Q64 ส่วน spread ของ MTBE ในสหรัฐลดลงถึง 49% QoQ เหลือ US$ 150/ton เพราะต้นทุนวัตถุดิบ butane มีราคาแพง เนื่องจากโรงงานหลายแห่งในสหรัฐมีการปิดซ่อมบำรุงใน 3Q64 นอกจากนี้เรายังคาดว่า margin ของ fiber ของ IVL จะลดลง 14% QoQ เหลือ US$ 135/ton เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลน semiconductor chip ในประเทศจีน ทั้งนี้ spread ที่ลดลงทั้งสามตัวดังกล่าวจะฉุดให้ core EBITDA margin ของ IVL ลดลง 14% QoQ เหลือ US$ 113/ton ใน 3Q64 นอกจากนี้ เราคาดว่า IVL จะมีกำไรจากสต็อกลดลง 15% QoQ เหลือ 1.5 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปริมาณยอดขายจะขยับเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น 3.68 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณยอดขาย Integrated Oxides and Derivatives (IOD) จะเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

spread ของ PET ดีขึ้นในเดือนตุลาคมจากวิกฤติพลังงานในจีน

spread ของ PET ในเอเชียฟื้นตัวขึ้นเป็นประมาณ US$ 140/ton ในเดือนตุลาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 3Q64 หลังจากที่จีนสั่งให้ลดอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานปิโตรเคมีลง ซึ่งรวมถึงโรงงาน PTA และ PET ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานถึงแม้ว่าโรงงาน PET ของ IVL ซึ่งมีกำลังการผลิต 580KTA จะตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงที่ประสบวิกฤติพลังงาน แต่โรงงานของบริษัทได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้ ดังนั้นเราจึงเชื่อว่า IVL จะได้อานิสงส์จากทั้ง spread ของ PET ที่ดีขึ้นในซีกโลกตะวันออก และจากการที่โรงงาน PET ในประเทศจีนสามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยคงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 57.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 9.5x เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งใน 3Q64 และ spread ของ PET ที่สูงขึ้นในปัจจุบัน จากวิกฤติพลังงานในประเทศจีน

- Advertisement -