บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Saksiam Leasing PCL. niche play ในธุรกิจ micro finance ขนาดเล็ก

Event

ร่วมประชุมกับผู้บริหารของบริษัท

Impact

เจาะตลาดชุมชนขนาดเล็กด้วยการขยายสาขา ทํานองเดียวกันกับ MTC

SAK ให้บริการเงินกู้โดยมีพอร์ตสินเชื่อรวม 7.6 พันล้านบาทใน 1H64 ประกอบด้วยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (>80% ของสินเชื่อรวม), สินเชื่อส่วนบุคคล (2.9% ของสินเชื่อรวม), nano finance (12.7% ของสินเชื่อรวม) และสินเชื่อเช่าซื้อ (4.3% ของสินเชื่อรวม) ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทเป็นสินเชื่อแบบมีหลักประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถและยานพาหนะสำหรับใช้ในภาคเกษตร) ซึ่งทำรายได้ให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วน >80% ของรายได้รวมใน 1H64 สำหรับในระยะต่อไป บริษัทคาดว่าสินเชื่อกลุ่มหลักที่จะขับเคลื่อนการเติบโตจะเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ, สินเชื่อ H/P รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ และสินเชื่อ nano finance

เน้นขยายสาขาเชิงรุก

บริษัทเปิดสาขาใหม่ตามแผนในปีนี้จนทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 719 สาขาครอบคลุมพื้นที่ 40 จังหวัด ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนแผนการเติบโตของธุรกิจ บริษัทมีแผนจะรุกขยายสาขา (200 สาขา/ปี) เพื่อเข้าหาฐานลูกค้าใหม่ๆ SAK คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 210 สาขาในปี 2565 และจะเพิ่มเป็น 1,119 สาขาในปี 2566 ซึ่งจากการขยายสาขาใน 1H64 เราคาดว่าจะทำให้สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงใน 2H21 และส่งผลดีต่ากำไรของบริษัท ทั้งนี้สัดส่วน C/I เพิ่มขึ้นเป็น 55.1% ใน 1064 และ 53.8% ใน 2Q64 จาก 47.2% ใน 4Q63

สินเชื่อขยายตัวดีเกินคาดในช่วงที่เกิดสถานการณ์โรคระบาด

บริษัทตั้งเป้าจะขยายพอร์ตสินเชื่ออีก 30% YoY ในปีนี้ แต่ดูเหมือนบริษัทจะทำได้ดีเกินเป้า เพราะสินเชื่อคิดเป็น 62% ของเป้าแล้ว เนื่องจากบริษัทเร่งเปิดสาขาใหม่ถึง 200 สาขาใน 1H64 ทั้งนี้ผู้บริหารบอกว่าพอร์ตสินเชื่ออาจจะโตได้ถึง 35-40% YoY ภายในสิ้นปีนี้ สำหรับในปีหน้า บริษัทคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นอีก 2.0-2.5 พันล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1.20 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เรามองว่าพอร์ตสินเชื่อของ SAK อาจจะโตได้ตามเป้าเพราะพอร์ตสินเชื่อของบริษัทเล็กกว่าของ Muangthai Capital (MTC.BK / MTC TB)* และ Srisawad Corporation (SAWAD.BK / SAWAD TB)* ซึ่งอยู่ที่ 7.73 หมื่นล้านบาท และ 3.26 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

ประมาณการ 3Q64F และแนวโน้มระยะต่อไป

เราคาดว่าผลประกอบการของ SAK จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY ใน 3Q64F เนื่องจาก i) สินเชื่อขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ถูกกระทบมากนักจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดหนักขึ้นภายในประเทศ ii) ต้นทุนทางการเงินลดลงและ iii) สัดส่วน C/I ลดลง ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิใน 2Q64 อยู่ที่ 417 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33.2% YoY เป็น 137 ล้านบาท consensus คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564F จะอยู่ที่ 607 ล้านบาท และปี 2565F จะเพิ่มขึ้นเป็น 828 ล้านบาท (EPS 0.40 บาท คิดเป็น PER ปี 2565 ที่ 20.4x ใกล้เคียงกับ PER เฉลี่ยของกลุ่มที่ 19.8x)

Risks อุปสงค์สินเชื่อขยายตัวช้าเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการกดดัน yield สินเชื่อ, NPL เพิ่มขึ้น

- Advertisement -