บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Home Prod Ctr (HMPRO) กำไร 4Q64 จะกลับมาโตทั้ง QoQ, YoY

Company Update

ประเด็นการลงทุน

SSSG ฟื้นตัวมาเป็นบวกเกิน 10% ในเดือน ต.ค. และยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีจากการเปิดประเทศ ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไร 4Q64 สูงสุดของปี แนวโน้มกำไรฟื้นตัวดียิ่งขึ้นในปีหน้าจากการปรับราคาสินค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่ม SSSG และอัตรากำไรอีกทั้งสัดส่วนสินค้า Private brand เพิ่มขึ้น เราคาดว่ากำไรปี 2565 มีโอกาสกลับไปสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 16.50 บาท

กําไร 3Q64 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย

กำไรสุทธิ 3Q64 ลดลง 39% QoQ และ 38% YoY เป็น 870 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาด 6% เนื่องจากยอดขายต่ำกว่าคาด ยอดขายลดลงจากการปิดสาขาส่วนหนึ่งในช่วงล็อกดาวน์ ส่งผลให้ SSSG ของโฮมโปรลดลงเป็น -11% (จาก -3.7% ใน 3Q63 และ +13.7% ใน 2Q64) และสาขามาเลเซียติดลบมากจากการล็อกดาวน์ อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 59 bps YoY ตามการลดลงของยอดขายที่ลดลง และสัดส่วนยอดขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รายได้ค่าเช่าลดลง 55% YoY เนื่องจากการปิดพื้นที่เช่าและไม่ได้จัดงาน Expo

SSSG พลิกมาเป็นบวกในเดือน ต.ค.

การคลายล็อกดาวน์ทำให้ SSSG เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. และเป็นบวกมากกว่า 10% ในเดือน ต.ค. โดยได้ผลบวกจากการจัด HomePro Super Expo ทำให้ยอดขายต่อใบเสร็จและจำนวนลูกค้าเข้าสาขาเพิ่มขึ้น เราคาดว่า SSSG จะเร่งตัวดีขึ้นจากการเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ประกอบกับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการขาย รายได้ค่าเช่าจะฟื้นตัวเช่นกัน จากที่พื้นที่เช่ากลับมาเปิดตามปกติ เราคาดว่ากำไร 4Q64 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เป็นระดับกำไรสูงสุดของปี และมีโอกาสเติบโต YoY ด้วย

ปรับราคาสินค้าช่วยเพิ่ม SSSG และอัตรากำไร

เราคาดว่ากำไรปี 2565 จะกลับไปสูงกว่ากำไรก่อนการระบาดของโควิด โดย HMPRO ได้ทยอยปรับราคาขายสินค้าไปแล้วเฉลี่ย 3-5% และมีโอกาสปรับเพิ่มในปีหน้าตามเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการปรับราคาสินค้า Private label ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ SSSG และอัตรากำไรขั้นต้น HMPRO ยังคาดว่าจะกลับมาขยายสาขามากขึ้น หลังจากชะลอไปในช่วงการระบาดของโควิด ขณะที่ยอดขายทาง E-Commerce ปรับฐานขึ้นมาเป็น 6-7% ของยอดขาย (จาก 5% ในปี 2563) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ความเสี่ยง: การล็อกดาวน์รอบใหม่สัดส่วนสินค้านำเข้าลดลง

- Advertisement -