บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์:

Bangkok Bank Plc.หุ้นแบงก์ที่ราคาถูกมาก

  • 9M64 ผลประกอบการยังทำได้ดีกว่าเป้าที่ตั้งไว้ กำไรโต 37% YoY
  • ถือเป็นธนาคารที่มี coverage ratio ถึง 199% สูงเป็นอันดับ 2 ของระบบ ยังเน้นสำรองสูง ยึดหลักระมัดระวัง
  • คาดกำไรทั้งปี 64 ยังโตสูงถึง 57% YoY + มองภาพเศรษฐกิจดีขึ้นหลังโควิดคลี่คลายจะหนุนให้กำไรปี 65 กลับมาใกล้เคียงกับระดับก่อนโควิดที่ราว 3.6 หมื่นลบ. ได้
  • ถือเป็นหุ้นธนาคารราคาถูก และยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง แนะ “ซื้อลงทุน”

ประเด็นการลงทุน

  • มีมุมมองเศรษฐกิจดีขึ้น 4Q64 น่าจะดีกว่าคาด และเชื่อหลังโควิดคลี่คลายเศรษฐกิจกลับมาโตสูงมากในปีแรก- BBL ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจดูดีขึ้น เริ่มเห็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจต่างๆดีขึ้นในเดือนก.ย. หลังคลายล็อคดาวน์ เชื่อ 4Q64 ดีกว่าคาด เพราะฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม ซึ่งตามการประเมินสิ้นปี 64 ประชากรจะได้รับวัคซีนครบ 100% (ไม่รวมเด็กอายุ 0-12 ปีที่ไม่ต้องฉีดวัคซีน) และจะทำให้รอบนี้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมั่นคง เชื่อไม่มีการคลายล็อคแล้วกลับมาล็อคดาวน์ใหม่เหมือนรอบที่ผ่านมา หลังจากรัฐทำ 4 มาตรการ คือ คุมโควิดได้ดี เร่งฉีดวัคซีน เปิดให้ท่องเที่ยว รวมถึงเปิดประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของภาครัฐ มองว่าแค่คนไทยเที่ยวไทยจน Occupancy rate กลับมาระดับ 35% เท่ากับช่วงฟื้นจากโควิดระลอกแรกก็เพียงพอที่จะทำให้ 4Q64 ดีกว่าคาดมาก และเชื่อเศรษฐกิจไทยจะกลับไประดับ 85-90% ของปกติ รวมถึงผลการศึกษาหลังมีโรคระบาดใหญ่ของโลกที่ผ่านมาเศรษฐกิจจะกลับมาโตสูงมากในปีแรกจาก Pending Demand และกลับมาโตดีปกติในปีถัดไป ทั้งนี้ BBL มีมุมมองในแง่บวกมากขึ้นกับเศรษฐกิจไทยคาด GDP ปี 64 โต 0% ++ และปี 65 จะโตสูงมาก ซึ่งส่งผลดีต่อภาคธนาคารด้วย
  • ยังคงเป้าหมายทางการเงินทุกอย่างเหมือนเดิม ยกเว้นเพียงเพิ่ม ECL ซึ่งไม่ได้เป็นผลจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอย แต่เน้นใช้หลักความระมัดระวังเผื่อไว้- BBL ประกาศกำไร 9M64 ที่ 20,189 ลบ. เพิ่มขึ้น 37% YoY  ทั้งนี้สินเชื่อยังโตได้สูงถึง 6.6% YTD โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ สินเชื่อกิจการต่างประเทศ โดยมี NIM ที่ 2.1% และรายได้ค่าธรรมเนียมยังโตได้ดี 17.7% YoY จากธุรกิจหลักทรัพย์กองทุนรวม Bancassurance รวมถึงค่าธรรมเนียมจากเพอร์มาต้าแบงก์ โดยมี Cost to income ที่ 47.9% ขณะที่ NPL ทรงตัวที่ 3.7% ทั้งนี้ BBL ยังคงเป้าหมายทางการเงินปี 64 ที่ให้ไว้ตามเดิม โดยยังคงเป้าสินเชื่อปี 64 โต 3-4% NIM 2.1% และคุม Cost to income ที่ 50% ต้นๆ บวกคุม NPL ให้อยู่ราว 4.5% ซึ่งผลการดำเนินงานที่ออกมาจริงดีกว่าคาดมากเกือบทั้งหมด คงมีเพียงเป้าการตั้งสำรอง Expected Credit Loss (ECL) ทั้งปีเดิมจะตั้ง 2.2 หมื่นลบ. แต่เพิ่มเป็น 2.8 หมื่นลบ. ทั้งนี้ BBL ชี้แจงว่าสำรองทั้งก้อนที่ตั้งเกือบทั้งหมดเป็นการตั้งสำรองส่วนเกินเผื่อไว้ (Management Overlay) ไม่ได้เกิดจากการด้อยคุณภาพของสินทรัพย์แต่อย่างใด และยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้เรื่องคุณภาพสินทรัพย์ที่จะถดถอยลงอย่างมาก ด้วยยังคงยึดหลักความระมัดระวังตามสไตล์ BBL
  • ปรับประมาณการกำไรปี 64 ลงเล็กน้อย จากการเพิ่มเป้าสำรอง ECL แต่ยังคงกำไรทั้งปี 64 โต 57% YoY –กำไร 9M64 คิดเป็น 71% ของประมาณการเดิมของเรา และจากการที่ BBL มาปรับเป้าหมายการตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้นจาก 2.2 หมื่นลบ. เป็น 2.8 หมื่นลบ. ทำให้เราปรับประมาณการกำไรทั้งปีลงราว 5% เพื่อสะท้อนการตั้งสำรองเพิ่มดังกล่าวเป็นหลัก โดยคาดทั้งปี 64 BBL จะมีกำไรสุทธิ 2.7 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 57% YoY และจากภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การคลายล็อคดาวน์ การเปิดประเทศน่าจะทำให้ปี 65 BBL จะมีกำไรกลับมาอยู่ระดับเดียวกับก่อนโควิดที่ 3.6 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 33% YoY ได้

คำแนะนํา

  • แนะนำ “ซื้อลงทุน” แม้ BBL จะดูเป็นแบงก์ใหญ่ที่ค่อนข้าง Conservative แต่มีการปรับตัวพัฒนาองค์กรให้สอดรับกับ digital disruption มาตลอด นอกจากนี้เชื่อว่าการลงทุนแบงก์เพอร์มาต้าในอินโดนีเซียน่าจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตขึ้นได้ในอนาคต BBL ถือเป็นหุ้นธนาคารที่ราคาถูกมาก เทรดเพียง 0.51xBV ทั้งที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งเงินกองทุนที่ 19.7% และ Coverage ratio ที่สูงมากถึง 199% ยังแนะ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 159 บ.

ปัจจัยเสี่ยง: การกลับมาระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจถดถอยหนักกว่าคาด เกิดหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

- Advertisement -