บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Home Product Center (HMPRO.BK / HMPRO TB) แสงสว่างปลายอุโมงค์
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
Impact
โมเมนตั้มยอดขายเป็นบวกใน 4Q64
ถึงแม้ว่า SSSG ของ HMPRO จะติดลบที่ -11.0% ใน 3Q64 แต่ SSSG ยังอยู่ที่ระดับประมาณสองหลัก QTD โดยเราคาดว่าภาวะตลาดจะดีต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เนื่องจาก i) การผ่อนคลายมาตรการ lockdown ii) การเปิดประเทศและ iii) มาตรการกระตุ้นของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนความมั่นใจของผู้บริโภคและกำลังซื้อโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 39.6 ในเดือนสิงหาคม 2564 มาอยู่ที่ 41.4 ในเดือนกันยายน 2564 ทั้งนี้เนื่องจาก SSSG ในงวด 9M64 อยู่ที่ ~1.0% และโมเมนตั้มยังเป็นบวกต่อ เนื่องเราจึงคาด SSSG ในปีนี้อาจจะพลิกเป็นบวกได้ (เราใช้สมมติฐานปีนี้ที่ 0.0%)
ตั้งเป้าจะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอีก 30bps ในปีนี้
HMPRO ยังคงเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อีก 30bps (จาก 25.3% ในปี 2563) หลังจากที่ GPM ในงวด 9M64 อยู่ที่ 25.4% (+20bps YoY) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นใน 4Q64 จาก sales mix ทีดีขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown และการปรับราคาขายสินค้า ทั้งนี้ เมื่ออิงตามเป้าของบริษัท เราคิดว่าสมมติฐาน GPM ปีนี้ของเราที่ 25.3% อาจจะยังมี upside อีก
คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q64 จะเพิ่มขึ้น QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q64 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นโดย SSSG และ GPM ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจะช่วยชดเชยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดใน 3Q64 และทำให้กำไรสุทธิในปีนี้ยังเป็นไปตามประมาณการของเรา ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าโมเมนตั้มจะยังคงเป็นบวกต่อเนื่องในปี 2565 หลังจากที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2564-65F เอาไว้เท่าเดิม
re-rate PER เพื่อสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรที่ชัดเจนมากขึ้น
เนื่องจากมีการเปิดประเทศตามแผน เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ HMPRO น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจากนี้ไป ดังนั้นเราจึง re-rate PER จากเดิม 34.0x (ค่าเฉลี่ยของ Siam Global House (GLOBAL.BK / GLOBAL TB)* และ HMPRO +0.5 S.D. ) เป็น 36.0x (+1.0 S.D.)
Valuation & action
เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ขึ้นจากเดิม 15.00 บาท เป็น 16.00 บาท อิงจาก PER ที่ 36.0x โดยยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” HMPRO
Risks เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจํานวนมาก
