บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Global Power Synergy  ประมาณการ 3Q64F: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

Event

ประมาณการ 3Q64F

Impact

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q64F จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่ากําไรจากธุรกิจหลักของ GPSC ใน 3Q64F จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (-22.1% YoY, -16.5% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) ได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าจาก EGAT และ ii) มีการปิดโรงไฟฟ้า Glow Energy เฟส 5 โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า (ทำให้เกิด operation loss ประมาณ 5 ล้านบาท/วัน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2564) เราคาดว่าราคาก๊าซ SPP จะยังคงสูงขึ้นทำให้ราคาก๊าซเฉลี่ยเพิ่มขึ้น +20%-30% QoQ เป็น Bt275mmBTU ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นบวกจาก i) อุปสงค์ไฟฟ้าของ SPP ที่เพิ่มขึ้นจาก IUs ii) ช่วง peak season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำสองแห่ง (XPCL และ Huay Ho) และ iii) การรับรู้รายได้ equity income จาก AVAADA เป็นไตรมาสแรก แต่แรงกดดันจากราคาก๊าซที่สูงขึ้น และการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน ยังคงมีน้ำหนักมากกว่า สำหรับรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 34 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่าย amortization ในส่วนของ GLOW อีก 386 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิใน 3Q64F อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท (-28.1% YoY, -19.6% QoQ) และทำให้กำไรในงวด 9M64F คิดเป็น 80.1% ของประมาณการกําไรปีนี้ของเรา

ปรับลดประมาณการกำไรธุรกิจหลักในปี 2564F และปี 2565F จากราคาก๊าซ และ Glow Energy เฟส 5

เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564F และ 2565F ลง 3.9% และ 1.3% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึง i) ผลกระทบจากราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นจากเฉลี่ย Bt220/220mmBTU เป็น Bt250/260mmBTU ในปี 2564F และ 2565F และ ii) การปิดโรงไฟฟ้า Glow Energy เฟส 5 โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เนื่องจากเกิดกรณีไฟฟ้าลัดวงจรในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้ GPSC กำลังดำเนินการซ่อมแซมและตรวจสอบสาเหตุกับผู้เชี่ยวชาญบริษัทผู้ผลิตและบริษัทประกันอยู่ โดยคาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องตามปกติได้ในต้นปี 2565 ซึ่งการปิดโรงไฟฟ้านอกแผนนี้มีประกันคุ้มครองสำหรับกรณีที่ธุรกิจถูกกระทบ (Business Interruption หรือ BI) โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก (deductible) 60 วัน และความเสียหายของทรัพย์สิน (Property Damage หรือ PD) โดยมีค่าเสียหายส่วนแรก US$ 1.5 ล้านดอลลาร์ฯ เราคาดว่าบริษัทจะมีความเสียหายจากการดำเนินงาน (operation loss) ประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน คิดเป็น operation loss 300 ล้านบาทในช่วงที่บริษัทต้องรับความเสียหายส่วนแรก

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ใหม่ที่ 94.50 บาท (จากเดิม 95.00 บาท) เนื่องจากราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q64F จะลดลง QoQ เนื่องจาก i) ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้นและ ii) เป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้า SPP ในประเทศไทย และ iii) เข้าสู่ช่วง low season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

Risks ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่

- Advertisement -