บล.กรุงศรีฯ:
| กลุ่มอุตสาหกรรม | เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร |
| หุ้น | TVO |
| มูลค่าพื้นฐาน | 33.60 |
| คำแนะนำ | HOLD |
เราคาดกำไร 3Q21F ที่ 517 ลบ. (+45% yoy, -29% qoq) ผลประกอบการที่ดีขึ้น yoy มาจากราคาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะน้ำมันถั่วเหลือง แต่กำไรอาจอ่อนแอลงในปีหน้าจากราคากากถั่วเหลืองจะลดลงและทำให้กำไรขั้นต้นอ่อนแอลง เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 33.60 บาทต่อหุ้น อ้างอิง 14x FY22F PER
คาดกำไร 3Q จะอ่อนแอลง qoq
แม้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้น 8%qoq เป็น 43.71บาท/กก. แต่ราคากากถั่วเหลืองลดลง 3%qoq เป็น 18.77บาท/กก. ขณะที่การบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศลดลง 18%qoq และปริมาณส่งออกน้ำมันถั่วเหลืองลดลง 5%qoq เราจึงคาดรายได้ 3Q ที่ 7.3 พันลบ. ลดลง 8%qoq อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเป็น 12.5% ใน 3Q จาก 14.2% ใน 2Q จากอัตราการผลิตที่ต่ำลง คาดกำไร 3Q21F ที่ 517 ลบ. (+45% yoy, -29% qoq)
คาดราคากากถั่วเหลืองจะลดลงในปี 2022
จีนอาจลดการนำเข้าถั่วเหลืองตามการผลิตสุกรในจีนที่คาดว่าจะลดลง 5% จาก 46.0 ล้านตันในปี FY21F เป็น 43.8 ล้านตันในปี FY22F โดยการผลิตสุกรทั่วโลกจะลดลง 2% เป็น 104.2 ล้านตัน ขณะที่ปริมาณการผลิตถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้น 5% และ 4% เป็น 385.1 และ 258.1 ล้านตันตามลำดับ ดังนั้นเราคาดราคากากถั่วเหลืองทั่วโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวในปี 2022 เนื่องจาก (1) Demand กากถั่วเหลืองเพื่อผลิตอาหารสัตว์ลดลง และ (2) Supply ที่สูงขึ้นจากประเทศผู้ผลิตหลัก
คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 33.60 บาทต่อหุ้น
เราคงคาดการณ์ปี FY21F-FY22F และคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 33.60 บาทต่อหุ้น อ้างอิง 14x FY22F PER เนื่องจากกำไรปี FY22F จะอ่อนแอลงจากราคากากถั่วเหลืองลดลง ล่าสุดราคากากถั่วเหลืองทั่วโลกลดลง 20% YTD และอาจลดลงต่อเนื่องในปีหน้า และทำให้อัตรากำไรลดลงและทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงสูงระดับปกติที่ 11-12% ใน FY22F แต่ยังให้ผลตอบแทนปันผลยังอยู่ในระดับที่ดีที่ 8% และ 6% สำหรับการดำเนินงานปี FY21F และ FY22F ตามลำดับ
