ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

รีบาวด์ ปัจจัยต่างประเทศชัดเจนมากขึ้น

ฝ่ายวิจัยฯ KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ฟื้นตัว …. หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ รีบาวด์ แต่ยืนไม่ได้ (อ่อนแอกว่าคาด) และเผชิญแรงขายหนักในกลุ่มสื่อสารรวมทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานบางตัว … ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยต่างประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น และน่าจะหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยเมื่อคืนนี้ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดมาตรการ QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เริ่มในปลายเดือนนี้ ซึ่งหมายความว่าเฟดจะสิ้นสุดการทำ QE ในช่วงปลาย มิ.ย. 2555 ทั้งนี้ประธานเฟดยังได้แถลงว่า i) เงินเพื่อน่าจะทรงตัวสูงไปถึงกลางปี 2565 ก่อนชะลอลงในครึ่งหลังของปี ii) สหรัฐฯน่าจะฟื้นตัวถึงระดับการจ้างงานเต็มที่ (maximum employment) ในกลางปี 2565 เช่นกัน ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ KGI ยังคงมุมมองว่าเฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 4/2565 …

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาเมื่อวานนี้แข็งแกร่ง ดัชนี ISM ภาคบริการ ต.ค. พุ่งสู่ 66.7 (consensus คาด 62.0) ขณะที่การจ้างงานเอกชน ADP survey เพิ่มขึ้น 5.71 แสนคน (consensus คาด 4.0 แสนคน)  ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามผลการประชุม OPEC+ ในวันนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ หรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา (แม้ว่าเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันปรับฐานค่อนข้างแรง หลังจากสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์สูงกว่าที่ consensus คาด) … ด้านปัจจัยการเมืองภายในประเทศยังมีประเด็นให้ติดตาม หลังเมื่อวานนี้เปิดสภาฯ วันแรกพบว่าสภาล่ม ขณะที่พรรคพลังประชารัฐฯ อาจมีการเปลี่ยนตัวประธานวิปรัฐบาล สะท้อนแรงกระเพื่อมภายในพรรคยังคงมีอยู่ ขณะที่เช้าวันนี้สบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ 7,982 รายเสียชีวิต 68 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 8,029 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BBL*, CPALL*, VGI*

  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 124 บาท / แนวต้าน 130 บาท (Stop loss 122 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว และแนวโน้มดอกเบี้ยที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่ PBV ของ BBL* ยังต่ำเพียง 0.51 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่ 0.8 เท่า 3) ประเมินประเด็นข่าวเรื่องการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อของ Citibank (ลงข่าวในนสพ.ข่าวหุ้น) หากเกิดขึ้นจริง เป็น Upside ต่อประมาณการฯ
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 64 บาท / แนวต้าน 65.5-67 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 70 บาท (Stop loss 63 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานหลักใน 3Q64 จะเป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q64 เป็นต้นไป หลังการเปิดประเทศ ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้น (โดยเฉพาะ Food inflation) จะเป็นบวกต่ออัตราการเติบโตของยอดขายสายเดิม (Same store sales growth: SSSG) 3) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการปรับโครงสร้างการถือหุ้น MAKRO และ Lotus จะเป็นบวกต่อ CPALL* โดยประเมิน Upside ต่อประมาณการฯ ปี 2565-67 ราว 4-10% หลังการปรับโครงสร้างเสร็จ 4) บนประมาณการฯ ปัจจุบันฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปี 2555 จะพลิกกลับมาโต +46% YoY และ Forward PE จะลดลงมาเป็น +/- 33 เท่าจาก +/- 48 เท่าในปีนี้
  • VGI* (เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.55 บาท / แนวต้าน 6.8-7.1 บาท (Stop loss 6.4 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 2Q64/65 (ก.ค. -ก.ย. ) จะเป็นจุดต่ำสุด โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดจะขาดทุนราว -59 ล้านบาท แต่จะเริ่มฟื้นตัวในช่วง ต.ค. 64 มี.ค. 65 ภายหลังการเปิดประเทศเป็นบวกต่อ Demand สื่อโฆษณานอกบ้าน ส่งผลให้คาดผลการดำเนินงานปี 2564/65 (ปิดงบ มี.ค.) มีกำไรได้ราว +300 ล้านบาท 3) ประเมินผลการดำเนินงานปี 2565/66 (ปิดงบ มี.ค. ) จะเติบโตเด่น +122% YoY จาก i) สื่อโฆษณานอกบ้านพื้น ii) Upside จากธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล อาทิ Synergy benefit จากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม JMART และ Rabbit cash

หุ้นมีข่าว

(+ PTT*, PTTEP*) ปตท.ชี้น้ำมันแตะ 100 ดอลลาร์ กกร. ชงรัฐขอขึ้นราคาปูน-เหล็ก (กรุงเทพธุรกิจ) “พลังงาน” ยันตรึงดีเซล 30 บาท เล็งลดเงินสมทบกองทุนอนุรักษ์พลังงานเหลือ 50 ส.ต. พร้อมกู้ 2 หมื่นล้าน ปตท. มองน้ำมันดิบแตะ 100 ดอลลาร์ ลุ้นผลประชุมโอเปกพลัส “นักวิชาการ” แนะลดภาษีสรรพสามิต 1-2 บาท กกร. เล็งหารือ “พาณิชย์” ผลกระทบน้ำมันแพงขอขึ้นราคาเหล็ก-ปูน

(+) เหยียบคันเร่งลดคาร์บอนหุ้นไฟฟ้า-วี-รับเหมาเฮ! (ทันหุ้น) รองนายกฯ เร่งลดการปล่อยมลพิษให้ไทยเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2593 ส่งเสริมอีวี สรุปธันวาคมนี้ บริษัทใหญ่เร่งลงทุนลดคาร์บอน ผู้เชี่ยวชาญมองช่วงเปลี่ยนถ่ายเชื้อเพลิงฟอสซิลจะผันผวน ฝั่ง EA พร้อมขยายโรงแบตเพิ่ม ด้านนักวิเคราะห์พุ่งเป้า EA*-GPSC* จับตา GULF*-BGRIM* ไม่เทกพลังงานทดแทนที่ปรึกษารับเหมาบทบาท

(+) ชู BBL แชมป์กำไรสูงสุดสำเร็จดีลซิตี้ธันวาคมนี้ (ข่าวหุ้น) กูรูเชียร์แบงก์กรุงเทพ กำไรสุทธิปีนี้เติบโตสูงสุดในกลุ่ม 2.6 หมื่นล้าน เพิ่ม 51% เตรียมปิดดีลซื้อพอร์ตซิตี้แบงก์ 5 หมื่นล้านภายในธันวาคมนี้ ขยายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลระดับพรีเมียมดันกำไรปีหน้าเพิ่ม 3% ผู้บริหารอุบแผนรุกธุรกิจจิทัลสำรองสูง coverage ratio 199% ราคาเป้าหมาย 180 บาท

(+ CPALL*, MAKRO) ‘โลตัส “พลิกโฉมศูนย์การค้าลุย” สมาร์ทคอมมูนิตี้ (กรุงเทพธุรกิจ) “โลตัส” กางโรดแมพทรานส์ฟอร์มศูนย์การค้ารับเทรนด์ไลฟ์สไตล์คนเมือง 24 ชั่วโมง “นำร่อง“ นอร์ ธ ราชพฤกษ์” พลิกโฉมสู่ “สมาร์ทคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์” ชูเทคโนโลยีมาผสมผสานดึงแบรนด์เล็ก-ใหญ่เจาะกำลังซื้อกรุงเทพฯโซนตะวันตก ดีเดย์ไตรมาส 2 ปีหน้า

(+) SSP ควัก 170 ล้านซื้อหุ้นโนวา 9.64% (ข่าวหุ้น) “เสริมสร้าง” ทุ่ม 170 ล้านบาทซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOVA สัดส่วน 9.64% เพื่อต่อยอดธุรกิจพลังงานทดแทน-สร้างโอกาสพัฒนาพลังงานทดแทนร่วมกันในอนาคตโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนฟาก NOVA นำเงินขายหุ้นเพิ่มทุนพี่พี่ให้ SSP ไปซื้อหุ้นวินชัยเพิ่มเป็น 50.625% หวังผลตอบแทนโครงการร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม 44.85 MW เพิ่มขึ้น

(+) BANPU ขายทิ้ง Sunseap รับทรัพย์ 1.2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) “บ้านปู” เทขายหุ้นโรงไฟฟ้า Sunseap ทั้งหมด 47.5% มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาทให้กับ บริษัท พลังงานหมุนเวียนในสเปน คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/65 เตรียมนำเงินขยายลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาด ดันเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 68

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนวรับ 3.36 บาท / แนวต้าน 3.5-3.6 บาท (Trailing stop 3.34 บาท)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน “Under review”) แนวรับ 129 บาท / แนวต้าน 135 138 บาท (Stop loss 124 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 95 บาท) แนวรับ 76 บาท / แนวต้าน 79 80 บาท (Stop loss 76 บาท)
  • M* (เป้าพื้นฐาน 62.5 บาท) แนวรับ 53 บาท / แนวต้าน 55-56.5 บาท (Stop loss 53 บาท)
  • BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) แนวรับ 9.4 บาท / แนวต้าน 9.6-9.8 บาท (Stop loss 9.35 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 15.4 บาท) แนวรับ 11.5 บาท / แนวต้าน 11.8-12.0 บาท (Stop loss 11.3 บาท)
  • PSH* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 13.1 บาท / แนวต้าน 13.5-13.7 บาท (Stop loss 13.1 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) แนวรับ 11.3 บาท / แนวต้าน 11.7 – 12.0 บาท (Stop loss 11 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) แนวรับ 14.7 บาท / แนวต้าน 15.0 -15.6 บาท (Stop loss 14.3 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • ESSO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 11.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 655 ล้านบาท (+40% YoY, -27%QoQ) กำไรที่คาดจะดีขึ้น YoY เป็นผลจากฐานต่ำปีก่อน (ไม่มีธุรกิจ Aromatic ถ่วงผลการดำเนินงาน) ขณะที่กำไรที่คาดจะชะลอตัวลง QoQ เป็นผลจากกำไรสต๊อกที่คาดจะลดลง อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินอุตสาหกรรมโรงกลั่นฟื้นตัวใน 4Q64
  • TACC แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 52 ล้านบาท (+11.4% YoY,  -3.4% QoQ) คงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะโตทั้งจาก B2B และ B2C
  • INTUCH* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 76 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 2.66 พันล้านบาท (-5% QoQ, ทรงตัว YoY) เป็นไปตามคาด แนะนำเพียง ถือ เพราะ Upside จำกัด และคาด Dividend yield 3.1%
  • LPH แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q64 = 251 ล้านบาท (+389% YoY, +196%QoQ) โดยประเมินกำไรที่โตเด่นในไตรมาสนี้ รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หลักทรัพย์ /2. เป้าพื้นฐานหมายถึงราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -