Our View? ”ฟื้นบ้างอะไรบ้าง..”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,610 / 1,600 และแนวต้านที่บริเวณ 1,625 / 1,630 มองตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศเริ่มปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทันทีตั้งแต่เดือนนี้ลง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่ตลาดคาดไว้ โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่ทำให้ FED สามารถปรับลดวงเงินได้ ซึ่งการลดวงเงินดังกล่าวจะทำให้ FED ยุติการทำ QE ในช่วงกลางปีหน้า อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของ FED ระบุว่า FED ไม่ได้มีกำหนดการที่ตายตัว โดย FED สามารถปรับเปลี่ยนมาตรการได้หากมีความจำเป็น เรามองเป็นการส่งสัญญาณ Dovish เพื่อลดความผันผวนของตลาด และเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่า FED จะพยายามส่งสัญญาณ Dovish ตามมาหลังประกาศปรับลดวงเงินในการทำ QE คาดจะหนุนทิศทางตลาดในระยะสั้นฟื้นตัวขึ้นได้อีกคร้ัง

ผสานกับท่าทีของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงส่งสัญญาณ Dovish ต่อเนื่อง โดยส่งสัญญาณ ECB ไม่มีแนวโน้มปรับข้ึนดอกเบี้ยในช่วงปีหน้า รวมทั้งยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรต่อไปเพื่อกดอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรให้ปรับตัวลดลง มองการเร่งตัวข้ึนของอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้เป็นการเร่งตัวข้ึนระยะสั้น และจะลดลงในระยะกลาง หนุนความเชื่อมั่นกระแสเงินทุนส่วนเกินมีโอกาสไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรง -3.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.86 ดอลลาร์/บาร์เรล (-3.63%) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกมาเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3 แสนบาร์เรล อีกท้ังราคาน้ำมันดิบเผชิญแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงก่อนการประชุม OPEC+ ในวันนี้ เรามองตลาดยังรอดูการประชุม OPEC+ ว่าจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิม ที่จะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. หาก OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมันและหุ้นในกลุ่มพลังงานได้อ่อนตัวลงได้อีกครั้ง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามองยังคงไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เพื่อเติมเข้าหนุนการฟื้นตัวขึ้นระยะกลาง ทางด้านการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่ม Re-Opening Theme หลักโดยเฉพาะท่องเที่ยว-โรงแรม และการบินปรับตัวรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ขณะที่เราแนะนำติดตามการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta+ คาดอาจจะกดดันหุ้นในกลุ่มดังกล่าวอ่อนตัวลงปรับฐานใหม่ได้

รวมท้ังเราแนะนำติดตามแนวโน้มการออก พรก. กู้เงินรอบใหม่ของรัฐ เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีหน้าหลังเหลือวงเงินกู้จาก พรก. กู้เงินล่าสุดท่ี 5 แสนล้านบาท ในปัจจุบันเหลือกรอบวงเงินอยู่เพียงราว 2.6 แสนล้านบาท คาดจะไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี’ 65 เรามองหากรัฐกู้เพิ่มมองจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คาดจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และธนาคารฟื้นตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันน้ี “TIDLOR”

ซื้อเล่นรอบ แนวรับ 36.25 / 35.75 Target 39.75 / 40.75 Stop <34.50

- Advertisement -